หะดีษบทที่ 16 ให้ละศีลอดทันทีเมื่อถึงเวลา
ให้รีบละศีลอดทันทีเมื่อถึงเวลา
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم : " لاَ يَزَالَ الدِّيْنُ ظَاهِرًا مَا عَجَّلَ النَّاسُ الفِطْرَ".
وَفيِ رِوَايَةِ سَهْلِ بْنِ سَعْدٍ أَنَّ رَسُولُ الله صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم قَالَ: " لاَ يَزَالُ النَّاسُ بِخَيْرٍ مَا عَجَّلوُا الفِطْرَ".
ความว่า จากอบี ฮุรอยเราะห์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่าน รอซูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) กล่าวว่า "ศาสนา (อิสลาม) นั้นสูงส่งและประสบชัยชนะอยู่เสมอ หากมุสลิมยังคงละศีลอดทันที (เมื่อถึงเวลา) และรายงานจากซะฮ์ล บิน ซะอัด ท่านรอซูลกล่าวว่า "มนุษย์จะยังคงประสบกับความดี (ในทุกๆ เรื่อง) หากพวกเขา (มุสลิม) รีบละศีลอดทันทีเมื่อถึงเวลา" (บันทึกโดยบุคอรี 1860 และมุสลิม 2/771)
คำอธิบาย
จากหะดีษข้างต้นชี้ให้เห็นว่าครั้นเมื่อคำสอนของศาสนา อิสลามอุบัติขึ้น โดยมีความชัดแจ้งกว่าคำสอนของศาสนาอื่น จึงเป็นที่แน่นอนว่า ความดีต่าง ๆ จะคงต่อไป ในเรื่องการให้รีบละศีลอด จึงเป็นความสุขประเสริฐในหลักคำสอนอิสลามที่ต่างจากหลักคำสอนของศาสนาอื่น ๆ เช่น ยิวและคริสต์ และศาสนาอิสลามส่งเสริมให้มุสลิมมีคุณลักษณะแตกต่างไปจากผู้ที่นับถือในศาสนาคริสต์และยิว ในเรื่องนี้อบู ฮุรอยเราะห์ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "เพราะว่าบรรดาชาวยิวและคริสต์นั้นจะล่าช้าในการละศีลอด"
ในรายงานอิบนุ ฮิบบาน และอัลหะกีมระบุว่าประชาชาติของฉันจะอยู่บนสุนนะฮของฉันตราบใด พวกเขาไม่รอคอยการละศีลอดกระทั่งดวงดาวโผล่ออกมา
อัล-มะฮ์ลับกล่าวว่า วิทยปัญญาดังกล่าวเพื่อมิให้การเพิ่มเวลากลางวันในเวลากลางคืน และละศีลอดทันทีซึ่งเป็นการเพิ่มอ่อมน้อมแก่ผู้มีศีลอด ขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มพลังในการประกอบอิบาดะฮฺ (ฟัตหุล บารีย์ 4/194)
ในรายงานบทหนึ่งของอบี ฮุรอยเราะห์ กล่าวว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า "บ่าวของฉันที่รักฉันมากที่สุดก็คือผู้ที่ละศีลอดทันที" (เมื่อถึงเวลา) อัตติรมีซีย์มีทัศนะว่า เป็นหะดีษหะสันเฆาะรีบ) อัฏฏีบีย์กล่าวว่า "หวังว่ากรุณาปราณีจากอัลลอฮนั้น อันเนื่องมาจากการเจริญรอยตามสุนนะฮของท่านรอซูลและห่างไกลจากบิดอะฮ์ และเป็นการขัดแย้งกับชาวคัมภีย์ อัลกอรีย์กล่าวว่า ในหะดีษข้างต้นชี้ให้เห็นว่า ความประเสริญของประชาชาติของท่านรอซูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) การเจริญรอยตามหะดีษ (ซุนนะฮฺ) เป็นการยืนยันว่าจะได้รับความกรุณาปราณีจากอัลลอฮ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ตามที่พระองค์ได้ตรัสความว่า"จงกล่าวเถิดมุหัมมัดหากเจ้ารักใคร่อัลลอฮอย่างแท้จริงแล้วดังนั้นจงตามฉัน แน่แท้อัลลอฮรักใคร่สูเจ้า"
อัมรู บิน ไมมูน อัล-เอาดีย์กล่าวว่า แท้จริงบรรดาเศาะหาบะฮของท่านนบีนั้น จะละศีลอดทันที (เมื่อถึงเวลาละศีลอด) และเป็นผู้ที่ล่าช้าที่สุดในการรับประทานอาหารสะหูร (ตุห์ฟะตุล อะห์วะซีย์ 3/386)
บทเรียนจากหะดีษ
ศาสนาอิสลามยังคงเป็นศาสนาที่สูงส่งและประสบชัยชนะเหนือศาสนาอื่น ด้วยความสัจธรรมและการยอมรับจากอัลลอฮฺอันเป็นศาสนาที่พระองค์ทรงโปรดปราน (ริฎอ)
1. อิสลามยังคงเป็นศาสนาแห่งสัจธรรม ตราบใดที่ผู้ที่นับถืออิสลามยังคงยึดมั่นในหลักคำสอนอิสลามอย่างมั่นคง ประการหนึ่งคือ ด้วยการรักษาเวลาในการละศีลอด (ละทันทีเมื่อถึงเวลา)
2. ฝึกฝนให้มุสลิมมีความเคยชินกับระเบียบและการตรงต่อเวลาในการประกอบอิบาดะฮฺ
3. อิสลามเอาใจใส่ต่อผู้ที่ถือศีลอดและส่งเสริมให้ประกอบอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ (ศุบห)
4. ท่านรอซูลจะไม่พึงพอใจหากประชาชาติของท่านล่าช้าในการละศีลอด ฉะนั้นด้วยเหตุการล่าช้าในการละศีลอดจะนำไปสู่ความเสียหายต่อศาสนาได้
5. เพื่อให้เกิดความแตกต่างไปจากการดำเนินชีวิตของชาวยิวและคริสต์ โดยเฉพาะวิธีการละศีลอด ซึ่งหลักฐานจากหะดีษพบว่าพวกเขา (ชาวยิวและคริสต์) จะล่าช้าในการละศีลอด
6. การละศีลอดทันทีในเดือนรอมฎอนนั้นเป็นซุนนะห์ของท่านรอซูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)
7. การละศีลอดทันทีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ถือศีลอด
บทความที่เกี่ยวข้อง
- มัดรวมรอมฎอน ดุอาอ์ คำเนียต ละหมาด ซะกาต
- กินสะหูรให้รอดอย่างไรในช่วงอากาศร้อนจัด
- อินทผลัมสดกับอินทผลัมแห้งกินแบบไหนดีกว่ากัน?
- บทดุอาอ์เมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว (ฮิลาล)
- คำเนียต คำกล่าว หรือการตั้งเจตนา ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
- ดุอาอ์ละศีลอด
- วิธีละหมาดตะรอวีหฺ
- คํากล่าวหรือคำเหนียตซะกาตฟิตเราะฮฺ (ทั้งผู้ให้และผู้รับ)
- มีเงินเก็บเท่าไหร่? ถึงต้องออกซะกาต ตัวอย่างการคิดเงินซะกาตเป็นเงินบาทแบบง่ายๆ
- ความพิเศษและความประเสริฐในเดือนรอมฎอน
------
Tags: