
อัฎฎุฮา (الضُّحَى) ความจำเริญที่มากับแสงตะวัน
อัฎฎุฮา (الضُّحَى) ความจำเริญที่มากับแสงตะวัน
คำว่า อัฎฎุฮา (الضُّحَى) แปลว่า แสงตะวัน หรือ การขึ้นของดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน การละหมาดดุฮา เป็นการละหมาดสุนัต ที่กำหนดเวลาละหมาด ตั้งแต่หลังจากดวงอาทิตย์ขึ้น แล้ว จนกระทั่งดวงอาทิตย์คล้อย แต่ที่ดีแล้ว ไม่ควรละหมาดให้สายมากนัก
รายงานจาก ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺเราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
ความว่า “ผู้เป็นที่รักยิ่งของฉัน (หมายถึง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ได้สั่งเสียแก่ฉันสามอย่างด้วยกัน คือ การถือศีลอดสุนัต สามวันต่อเดือนทุกเดือน การละหมาดสองร็อกอะฮฺ ในเวลาดุฮา และการละหมาดวิตรฺ ก่อนที่ฉันจะนอนทุกครั้ง” (หะดีษ ละหมาดดุฮา : มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมีบันทึกในอัล-บุคอรีย์ เลขที่ : 1981 สำนวนนี้เป็นของท่าน และมุสลิม เลขที่: 721)
รายงานจาก ท่านอบูซัรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
ความว่า “ทุกๆ เช้า พวกท่านเริ่มเช้าขึ้นมาด้วยหน้าที่ซึ่งต้องรับผิดชอบบริจาคเศาะดะเกาะฮฺต่อ (พระคุณของอัลลอฮฺที่ทรงประทาน) กระดูกทุกข้อของพวกท่าน ทุกครั้งที่กล่าว ซุบหานัลลอฮฺ เป็นเศาะดะเกาะฮฺหนึ่ง การกล่าว อัลหัมดุลิลลาฮฺ ก็เป็นเศาะดะเกาะฮฺ การกล่าว ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ ก็เป็นเศาะดะเกาะฮฺ การกล่าว อัลลอฮุอักบัรฺ ก็เป็นเศาะดะเกาะฮฺ การใช้ให้ทำความดี เป็นเศาะดะเกาะฮฺ การห้ามปรามจากความชั่ว เป็นเศาะดะเกาะฮฺ และเป็นการเพียงพอจากสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาด้วยการละหมาดดุฮา เพียงสองร็อกอะฮฺ” (หะดีษ ละหมาดดุฮา : บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 720)
การละหมาดดุฮา มีความประเสริฐ และเป็นคุณความดีอย่างยิ่ง ดังที่ ท่านอุมมุฮานี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา น้าสาวของท่านนบี ได้กล่าวว่า
إِنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ دَخَلَ بَيْتَهَا يَوْمَ فَتْحِ مَكَّةَ فَاغْتَسَلَ وَصَلَّى ثَمَانِيَ رَكَعَاتٍ فَلَمْ أَرَ صَلَاةً قَطُّ أَخَفَّ مِنْهَا غَيْرَ أَنَّهُ يُتِمُّ الرُّكُوعَ وَالسُّجُودَ
“แท้จริงท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เข้าไปในบ้านของนาง ในวันพิชิตมักกะฮ์ ท่านได้ทำการอาบน้ำและละหมาด 8 รอกะอัต ซึ่งฉันไม่เคยเห็นละหมาดใด ที่จะเร็วไปกว่าละหมาดนี้เลย แต่ว่าท่านได้ทำการรุกั๊วะ และสุญูดอย่างสมบูรณ์" (รายงานโดยบุคอรีย์)
จาก ท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
أَوْصَانِي خَلِيلِي صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِثَلَاثٍ بِصِيَامِ ثَلَاثَةِ أَيَّامٍ مِنْ كُلِّ شَهْرٍ وَرَكْعَتَيْ الضُّحَى وَأَنْ أُوتِرَ قَبْلَ أَنْ أَرْقُدَ
"มิตรสนิทของฉัน ได้กำชับฉันสามประการ คือ ถือศีลอด 3 วันของทุกเดือน สองรอกะอัตละหมาดุฮา และให้ฉันละหมาดวิตร์ ก่อนที่ฉันจะนอน" ( รายงานโดยมุสลิม)
รายงานจาก อบี ดัรดาอฺ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ เขาได้กล่าวว่า
أَوْصَانِي حَبِيبِي صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِثَلَاثٍ لَنْ أَدَعَهُنَّ مَا عِشْتُ بِصِيَامِ ثَلَاثَةِ أَيَّامٍ مِنْ كُلِّ شَهْرٍ وَصَلَاةِ الضُّحَى وَبِأَنْ لَا أَنَامَ حَتَّى أُوتِرَ
"มิตรสหายรักของฉัน ได้กำชับฉัน 3 ประการ ซึ่งฉันไม่เคยทิ้งมันเลย ตราบที่มีชีวิตอยู่ คือ ถือศีลอด 3 วันของทุกเดือน ละหมาดดุฮา และไม่นอนจนกว่าทำละหมาดวิติร" (รายงานโดยมุสลิม)
การละหมาดุฮานั้น น้อยที่สุดมี 2 รอกะอัต มากที่สุด มี 8 รอกะอัต ตามทัศนะของ ท่านอิมามอันนะวาวีย์ และนักปราชญ์ส่วนมาก ซึ่ง 8 รอกะอัต ถือว่าดีเลิศ แต่สำหรับทัศนะ ของอิมามอัรรอฟิอีย์ นั้น กล่าวว่า อนุญาตให้เพิ่มการละหมาดดุฮา ถึง 12 รอกะอัต
การละหมาดุฮานั้น จะละหมาดทีละ สองร่อกะอัต แล้วให้สลาม เหมือนละหมาดสุนัตทั่วๆ ไป หลังจากอ่านฟาติฮะห์ ท่านจะอ่านซูเราะฮใดก็ได้ ที่ท่านมีความสามารถ การละหมาดุฮานั้น เป็นสุนัตมุอักกัต ที่ผลบุญเกือบเทียบเท่า การละหมาดวาญิบ หรือฟัรดู
ในการสูญูตสุดท้าย ให้กล่าวว่า
وَهَبْ لِي يَا وَهَّابُ عِلْمًا وَحِكْمَةً وَارْزُقْنِي يَا رَزَّاقُ كُنْ لِي مُسَهَّلًا
"โปรดทรงประทานความรู้และปัญญาแก่ข้าพระองค์ และโปรดทรงให้สิ่งของที่สะดวก แก่ข้าพระองค์ โอ้พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงประทานปัจจัยยังชีพ โปรดทรงทำให้สิ่งของนั้น สะดวกแก่ข้าพระองค์"
หลังจากให้สลาม ให้ขอดุอาร์ต่ออัลลอฮฺ เพื่อขอความจำเริญให้กับชีวิต ดังนี้
اَللّهُمَّ اِنَّ الضُّحَاءَ ضُحَاءُكَ وَالْبَهَاءَ بَهَائُكَ وَالْجَمَالَ جَمَالُكَ وَالْقُوَّةَ قُوَّتُكَ وَالْقُدْرَةَ قُدْرَتُكَ وَالْعِصْمَةَ عِصْمَتُكَ
اَللّهُمَّ اِنْ كَانَ رِزْقِى فِى السَّمَاءِ فَاَنْزِلْهُ وَاِنْ كَانَ فِى اْلاَرْضِ فَاَخْرِجْهُ
وَاِنْ كَانَ مُعَسِّرًا فَيَسِّرْهُ وَاِنْ كَانَ حَرَامًا فَطَهِّرْهُ وَاِنْ كَانَ بَعِيْدًا فَقَرِّبْهُ بِحَقِّ ضُحَائِكَ
وَبَهَائِكَ وَجَمَالِكَ وَقُوَّتِكَ وَقُدْرَتِكَ وَعِصْمَتِكَ اَتِنِى مَااَتَيْتَ عِبَادَكَ الصَّالِحِيْنَ
"โอ้พระผู้เป็นเจ้า แท้จริง เวลาแห่งการดุฮานั้นเป็นดุฮาของพระองค์ ความงามของมัน คือความงามของพระองค์ ความแข็งแกร่งของมัน คือความแข็งแกร่งของพระองค์ พลังของมัน คือพลังของพระองค์ การปกป้องของมัน คือการปกป้องของพระองค์ ... โอ้พระผู้เป็นเจ้า หากปัจจัยยังชีพอยู่บนฟ้า ก็ขอให้นำมันลงมา หากอยู่บนแผ่นดิน ก็ขอให้นำออกมา หากมันยาก ก็ขอให้ทำให้มันง่าย หากมันต้องห้าม ก็ขอให้ชำระล้าง หากมันอยู่ไกล ก็ขอให้นำมันเข้ามาใกล้ ... พรแห่งกาล แห่งดูฮา ความงามของพระองค์ ความรุ่งโรจน์ของพระองค์ ความแข็งแกร่งของพระองค์ อำนาจของพระองค์ ... โปรดประทานแก่ข้าพเจ้าทุกสิ่ง ที่พระองค์ได้ประทาน แก่ผู้รับใช้ผู้ชอบธรรมของพระองค์"
บทความที่น่าสนใจ
Tags: