คำถามที่มุสลิมมักถูกถามบ่อยๆ
สำหรับผู้สนใจศาสนาอิสลามและคนต่างศาสนิกบางท่านอาจมีคำถามหรือข้อสงสัย และทางเพจได้รวบรวมคำถามยอดฮิต ว่าทำไมมุสลิมจึงปฏิบัติเช่นนั้น(แบบเบื้องต้น)
*note: ทุกศาสนามีหลักการและข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน เพื่อเป็นแนวทางให้ศาสนิกชนได้ปฏิบัติได้อย่างถูก และทุกศาสนาสอนแต่สิ่งที่ดีงาม
1. ทำไมเชื่อว่าอัลลอฮฺมีอยู่จริง
หากท่านถามเราว่า ทำไมเราจึงเชื่อว่ามีพระเจ้า ? ทั้งๆ ที่มองไม่เห็น เราก็ขอย้อนถามท่านว่า ทำไมท่านจึงเชื่อว่ามีวิญญาณ? ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นเช่นกัน
.
คำตอบ ก็คงคล้ายกัน
.
ท่านเชื่อว่ามีวิญญาณ ทั้งที่ท่านไม่สามารถมองเห็น ไม่สามารถสัมผัส ไม่สามารถรับรู้สภาพ และที่อยู่ของวิญญาณได้ แค่ท่านรู้ว่าคุณลักษณะของวิญญาณ คือร่างโปร่งแสงไร้น้ำหนัก ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานอ้างอิงด้วยซ้ำว่าจริงหรือไม่ แต่ท่านก็เชื่อ
.
เราก็เชื่อว่า มีพระเจ้าหรือ ผู้สร้าง โดยที่เราไม่สามาถมองเห็น ไม่สามารถรับรู้สภาพและที่อยู่ แต่เรารับรู้โดยผ่านการบอกเล่าผ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านว่าให้พิจารณาการมีอยู่ของพระเจ้าจากคุณสมบัติของผู้สร้างเช่นการมีอยู่หนึ่งเดียว การมีมาแต่เดิมรวมทั้งการไม่เหมือนสิ่งถูกสร้าง และ สิ่งถูกสร้างรอบๆตัวเราซึ่งได้แก่ระบบสุริยจักรวาล โลก ระบบภายในของโลกที่ถูกเรียกโดยรวมว่า ธรรมชาติ
.
จึงทำให้เราเชื่อสุดหัวใจว่าพระเจ้าที่เราเรียกว่า "อัลลอฮฺ" มีจริง
บทความที่น่าสนใจ
- ย้ำเตือนหัวใจของเรา "ทุกความสำเร็จ" มาจากอัลลอฮ์
- ดุอาอ์มอบหมายการงานต่ออัลลอฮ์
- ยอมถ่อมตนลงมาเพื่อให้อัลลอฮ์พอใจ
2. ทำไมมุสลิมไม่กินหมู
เหตุผลหลัก คือ เป็นการแสดงความเคารพเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นคำสั่งใดก็ตาม
.
เหตุผลอื่นล้วนเป็นเหตุผลประกอบเช่น มุสลิมไม่กินหมูเพราะถือว่าเป็นสัตว์สกปรก กินสิ่งปฏิกูล ไม่ดีต่อสุขภาพ
.
และทางการแพทย์ได้ตรวจพบแล้วว่า เนื้อหมูมีไขมันมาก ไม่สะดวกในการย่อย มีโทษมากกว่าคุณ ทำให้ไขมันในเลือดสูงขึ้น เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคทางร่างกายมากมาย
.
นอกจากนี้ “พยาธิทริคคิโนซิซ” ซึ่งเป็นพยาธิในหมูนั้นทำอันตรายแก่ผู้บริโภคถึงแก่ชีวิตได้ แม้ว่าเราจะปรุงอาหารที่ทำจากเนื้อหมูจนสุกแล้วก็ตาม แต่พยาธิในหมูนั้นยังไม่ตาย ซึ่งร้ายแรงกว่าพยาธิใน สัตว์อื่นๆ ซึ่งป้องกันได้โดยปรุงอาหารให้สุก
3. ทำไมต้องคลุมผม
คำถามที่ว่า “ทำไมต้องใส่ฮิญาบ?” กลับเป็นคำถามที่คนต่างศาสนิกสงสัยและใคร่รู้ ถ้าต้องอธิบายเรื่องที่ยาวและซับซ้อนให้สั้นลงนั้น คำว่าฮิญาบ (Hijab) เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า สิ่งกีดขวาง ม่านปิดกั้น และสิ่งปกปิด การคลุมฮิญาบนั้นถือเป็นวาญิบ (ข้อบังคับทางศาสนา)
.
สตรีในผ้าคลุมฮิญาบ จะถูกป้องกันให้ปลอดภัยจากความเสี่ยงส่วนใหญ่ที่สตรีทั่วไปพบเจอ ทั้งในแง่อันตรายที่เป็นรูปธรรม จากคนที่จะมาล่วงเกินเธอทางใดทางหนึ่ง และอันตรายที่เป็นนามธรรมจากค่านิยมผิ ดๆในเรื่องความสวยงาม
.
การคลุมฮิญาบของสตรีนั้น โดยทั่วไป จะเปิดเผยแค่ใบหน้าและฝ่ามือ ส่วนการปิดจนเหลือแต่ลูกตานั้นเป็นทัศนะที่ปฏิบัติเพื่อป้องกันตนเองจากฟิตนะห์ (ความไม่ดีไม่งามทางสังคม) เช่น ป้องกันการถูกแซว หรือ การหยอกล้อเชิงชู้สาว จากเพื่อนชาย เป็นต้น
บทความที่น่าสนใจ
- ใส่ฮิญาบแบบไหนจึงจะถูกต้องตามหลักอิสลาม
- คุณประโยชน์ของการคลุมฮิญาบ
- เหตุใด? เป็นมุสลิมถึงต้องคลุมฮิญาบ
- อายะฮ์และหะดีษเกี่ยวกับฮิญาบ
4. ทำไมผู้ชายมุสลิมมีภรรยาได้ถึง 4 คน
ศาสนาอิสลาม คือ ศาสนาที่ให้เกียรติแก่เพศสตรีอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพราะอะไรที่กล่าวเช่นนั้น?
.
เพราะอิสลามให้ทางออกกับมนุษยชาติทั้งหมด ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ว่า ความต้องการของผู้ชาย (ด้านอารมณ์ทางเพศส่วนใหญ่) มีอายุการใช้งานนานกว่าผู้หญิง (ตั้งแต่วันที่เริ่มมีอสุจิไปจนตาย) เมื่อเป็นเช่นนี้ อิสลามก็ให้ทางออกกับชายมุสลิม โดยอนุญาตให้ผู้ชายมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งคน แต่ต้องไม่เกินสี่คน
.
*โดยวางเงื่อนไขว่า ภรรยาทุกคน ต้องมีสิทธิ์เสมอกัน ไม่มีเมียน้อย เมียหลวง ทั้งเรื่องของเกียรติยศ สิทธิการเลี้ยงดูู และสิทธิทางมรดก แม้กระทั่งสิทธิในเรื่องของเวลาที่จะต้องจัดแบ่งให้ยุติธรรม หากทำไม่ได้ก็ให้มีเพียงภรรยาคนเดียวเท่านั้น***
บทความที่น่าสนใจ
- ตอบคำถามยอดฮิต ตอนที่ 1 : ทำไมอิสลามจึงอนุญาตให้มีเมีย 4 คน?
- ตอบคำถามยอดฮิต ตอนที่ 2 : ทำไมอิสลามจึงอนุญาตให้มีเมีย 4 คน?
5. ทำไมมุสลิมชายต้องขลิบ
ในยุคปัจจุบันเรื่องการขลิบเป็นข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยอมรับในทางการแพทย์ว่า เป็นการรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศและป้องกันการเกิดกามโรค เพราะเชื้อโรคและสิ่งสกปรกหมักหมมทั้งหมดจะเกาะตัวอยู่ในบริเวณหนังห่อหุ้มของอวัยวะเพศ
.
ซึ่งทำความสะอาดได้ยาก และหนังส่วนนั้นก็จะไม่มีประโยชน์ใดๆเลยเมื่อมนุษย์เติบโตขึ้นมา
.
ดังนั้นการแพทย์จึงสนับสนุนให้มีการขลิบ และในประเทศอเมริกานั้นถือเป็นธรรมเนียมหรือค่านิยมโดยทั่วไปคือการให้มีการขลิบตั้งแต่แรกเกิด
6. ทำไมมุสลิมต้องถือศีลอด
การถือศีลอดไม่ได้มีแต่เพียงการฝึกอดอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นการงดเว้นการกระทำอื่นๆบางประการอีกด้วย ฉะนั้นการถือศีลอดจึงเป็นการฝึกให้มนุษย์มีความแตกต่างจากสัตว์ ให้รู้จักควบคุมตนเองว่าห้ามกินทั้งๆที่หิว สามีภรรยาห้ามร่วมประเวณีกันในเวลากลางวัน(ขณะถือศีลอด) ให้รู้จักควบคุมอารมณ์ไม่ให้โกรธ ให้รู้จักควบคุมคำพูดไม่ให้พูดไร้สาระ ไม่นินทาว่าร้ายคน ถ้าหากเราระงับการนินทาว่าร้ายไม่ได้ การอดอาหารนั้นก็แทบจะเป็นการหิวฟรี! ไม่ได้บุญอะไร
.
การถือศีลอดเป็นแบบทดสอบความศรัทธาอย่างหนึ่ง มนุษย์ที่ไม่มีศรัทธาเขาก็ไม่รู้ว่าจะอดไปเพื่ออะไร แต่สำหรับผู้ศรัทธาเขาก็จะมีความยำเกรงต่อพระเจ้าและไม่กล้าประพฤติผิดระเบียบวินัยที่พระเจ้าบัญญัติไว้ โดยมีการอดอาหารเป็นตัวควบคุมจิตใจและเตือนสติว่ากำลังถือศีลอยู่นะ.. อย่าทำผิดนะ..
.
พระผู้เป็นเจ้าได้บัญญัติให้มีข้อบังคับสำหรับมุสลิม คือ ให้ถือศีลอดตลอดเดือนรอมฎอนในทุกปีสำหรับผู้ที่มีความสามารถ ไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่คนชรา ไม่ใช่คนป่วยหรือคนท้อง ส่วนการถือศีลอดนอกเหนือจากเดือนรอมฎอนนั้นก็สามารถกระทำได้ตามแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัดแต่ไม่เป็นข้อบังคับ
7. ทำไมมุสลิมต้องละหมาด
นัยของการละหมาด คือ การที่มนุษย์ติดต่อเชื่อมโยงกับพระเจ้าของเขา ในอิสลามมีกำหนดให้ละหมาดวันละ 5 เวลา
.
การปฏิบัติละหมาดเสมือนการแสดงความรักต่อพระเจ้า ยิ่งมุสลิมรักพระเจ้าของเขามากแค่ไหน เขาก็ย่อมต้องการให้พระองค์ทรงโปรดปรานมากขึ้นเท่านั้น และมุสลิมจะทำทุกอย่างที่พระองค์พอใจ และออกห่างจากสิ่งที่พระองค์ห้าม
.
การละหมาดก็เหมือนกับการที่มุสลิมเข้าไปย้ำพันธสัญญากับพระเจ้า ในรอบวันมุสลิมรู้ดีว่าเขาต้องรำลึกถึงพระเจ้า เข้าไปพบกับพระเจ้าอย่างน้อย 5 ครั้ง มุสลิมที่ตระหนักเรื่องนี้ก็จะมุ่งทำแต่ความดี ไม่กล้าทำความชั่วตลอดวัน
บทความที่น่าสนใจ
- การละหมาดคือความเมตตาและความห่วงใยของอัลลอฮ์ที่มีต่อมนุษย์
- ทำไมอิสลามต้องละหมาดวันละ 5 เวลา
- การขอดุอาหลังละหมาด 5 เวลา (ขอพร)
- ช่วงเวลาที่ห้ามละหมาด
- สร้างทัศนคติ ปรับวิธีคิด เพื่อที่เราจะได้ไม่ละเลยการละหมาด
8. ทำไมคนต่างศาสนิกแต่งกับมุสลิมแล้วต้องเปลี่ยนศาสนา
การแต่งงาน เป็นการผูกนิติสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงที่จะร่วมชีวิตคู่และสร้างครอบครัว ลองคิดดูเอาเถิดว่า ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิกที่ถือศาสนาต่างกัน มีความเชื่อต่างกัน มีวิถีชีวิตอันสืบเนื่องจากคำสอนของศาสนาต่างกัน มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างกัน ครอบครัวนั้นจะเป็นเช่นใด?
.
ทางออกของปัญหาก็คือต้องเป็นสักอย่างหนึ่งให้ชัดเจน แต่ละศาสนาย่อมมีกรอบและหลักคำสอนในการรักษาสถานภาพแห่งศาสนิกชนของตน ไม่มีศาสนาใดยินดีต่อการออกนอกกรอบและหลักคำสอนของศาสนิกชนในศาสนาของตน
.
ดังนั้น คนในศาสนาเดียวกันแต่งงานกันเองนั่นย่อมเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในกรณีนี้ได้ดีที่สุด ต่อเมื่อชายหญิงถือกันคนละศาสนาและประสงค์จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็ต้องเลือกเอาว่าตนจะถือศาสนาใด จึงเป็นไปไม่ได้ที่อิสลามจะยินดีให้ศาสนิกชนของตนเปลี่ยนไปถือศาสนาอื่น
9. ทำไมกินดอกเบี้ยไม่ได้
เหตุผลที่อิสลามห้ามเรื่องดอกเบี้ยก็เพราะว่ามันเป็นอันตรายต่อผู้คน และสังคมส่วนร่วม อีกทั้งยังเป็นการเอาเปรียบคนในสังคมอีกด้วยทั้ง2 ที่อิสลามเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน สาเหตุอีกอันหนึ่งที่อิสลามห้ามการกินดอกเบี้ยคือ ดอกเบี้ยเป็นเหตุให้เกิดความมั่งคั่งตกอยู่ในกำมือของคนกลุ่มน้อยนั้นคือ กลุ่มนายทุนเงินกู้และพ่อค้าผูกขาด
.
อิสลามได้เรียกร้องมวลมนุษย์ไว้อย่างชัดเจนในเรื่องดอกเบี้ยซึ่งมันคือภัย คุกคามอันเลวร้ายต่อสังคมมนุษย์ และนำมวลมนุษย์ไปสู่ความทุกข์ทรมานสร้างความเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบกดขี่ ข่มเหง ขูดรีด ฉ้อโกง ขาดการไว้วางใจซึ่งกันและกัน เกิดการแบ่งชนชั้นในหมู่มนุษย์ ระหว่างผู้ที่ร่ำรวยและยากจนและก่อให้เกิดการแตกแยกในสังคม
บทความที่น่าสนใจ
- ต้องรู้ .. มุสลิมเล่นแชร์ทำได้หรือไม่?
- เปิดโลก การเงินอิสลาม เรียนรู้เรื่องธุรกรรมอิสลาม ระบบดอกเบี้ย ระบบเงินกู้
10. ทำไมมุสลิมฟังเพลงไม่ได้
เหตุผลในการห้ามเสียงเพลงและเครื่องดนตรี
.
1. ทำให้หัวใจหลงใหล เมามัว และดนตรียังเป็นสิ่งขัดขวางผู้กระทำจากการรำลึกถึงอัลลอฮฺ
.
2. เสียงเพลงและเครื่องดนตรีส่งผลให้เกิดความกลับกลอก (النفاق) ขึ้นในหัวใจ
.
ท่านอิบนุกอยยิม กล่าว่า "พึงทราบเถิดว่า อันที่จริงแล้วเสียงเพลงมีลักษณะเฉพาะที่จะส่งผลกระทบด้วยการบ่มเพาะความกลับกลอกขึ้นในหัวใจ ซึ่งลักษณะเฉพาะนั้นก็คือ การที่เสียงเพลงได้สร้างความเคลิบเคลิ้มแก่หัวใจ และปิดกั้นหัวใจดวงนั้นจากการเข้าใจในอัลกุรอาน และการพินิจพิจารณา ตลอดจนการปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกระบุไว้ในอัลกุรอาน"
.
ทั้งนี้ เนื่องจากอัลกุรอานและเสียงเพลงจะไม่มีทางอยู่ร่วมในหัวใจดวงเดียวกันเป็นอันขาด ด้วยเหตุที่ทั้งสองมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะอัลกุรอานนั้นจะหักห้ามการคล้อยตามอารมณ์ และสั่งใช้ให้มีเกียรติ ห่างไกลจากอารมณ์ที่จิตใจปรารถนา และต้นเหตุของการหลงผิดทั้งมวล ตลอดจนสั่งห้ามการปฏิบัติตามย่างก้าวของชัยตอน ในขณะที่เสียงเพลงกลับสั่งใช้ในทุกสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ได้กล่าวมา
11. ทำไมห้ามชายหญิงถูกเนื้อต้องตัวกัน
เพื่อขจัดสิ่งที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย ตาม เนื่องจากในการกระทำดังกล่าวนั้น มันมีสิ่งที่เป็นอันตรายของความยุ่งเหยิงของแต่ละคน จากเขาทั้งสอง
.
ศาสนาอนุญาตให้ ชายหญิง กล่าวสลาม ทักทายซึ่งกันและกันได้ แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องไม่มีการสัมผัสผิวกายกัน ไม่ว่าสัมผัสมือ แขน หรือสวมกอด
.
สำหรับ การสัมผัสมือของเพศตรงข้ามที่ไม่ได้เป็นมะรอม (บุคคลตมสายเลือดที่แต่งงานกันไม่ได้) หรือบุคคลแต่งงานกัน (สามี) นั้น หากอยู่ในกรณีจำเป็น เช่น เพื่อการรักษาพยาบาล ก็เป็นที่อนุโลมให้สัมผัสได้
.
หากไม่มีความจำเป็นใดเลย อย่างเช่น ผู้จับมือเป็นครูอาจารย์ หรือลูกศิษย์ ซึ่งทั้งสองสามารถแต่งงานกันได้ หรือไม่ได้เป็นมะร็อม ถึงแม้จะมีของกั้นก็เป็นที่ต้องห้ามเช่นเดียวกัน
12. ทำไมมุสลิมดื่มสุราหรือของมึนเมาไม่ได้
สุรา หมายถึง ทุกสิ่งที่ทำให้สติปัญญามึนเมาและหลงลืม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มชนิดใด
.
สุราเป็นปฐมบทของความชั่วร้าย เป็นที่ต้องห้ามในการที่จะไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะด้วยกับกรณีอันใด การดื่ม การขาย การซื้อ การผลิต การให้บริการที่นำไปสู่การดื่ม ผู้ที่ดื่มมันจะทำให้ลืมสติ มันจะส่งผลอันตรายต่อร่างกาย จิตวิญญาณ ทรัพย์สมบัติ ลูกหลาน เกียรติภูมิ ปัจเจกบุคคล และรวมถึงสังคม และมันจะเพิ่มให้เกิดโรคความดันโลหิต เป็นสาเหตุให้ตัวเขาและลูกมีปัญหาทางสมอง สติฟั่นเฟือน อัมพาต และเป็นเหตุนำไปสู่การก่ออาชญากรรม
.
สิ่งมึนเมาทำให้เกิดความเอร็ดอร่อยและมีพลังเพิ่มขึ้น พร้อมกันนั้นทำให้สติปัญญาไม่สามารถแยกแยะได้ ผู้ที่ดื่มไม่รับรู้ในสิ่งที่พูด ด้วยเหตุผลดังกล่าวอิสลามจึงห้ามและมีบทลงโทษเพื่อสกัดกั้นผู้ที่จะไปเกี่ยวข้องพัวพัน
13. ทำไมมุสลิมห้ามเลี้ยงสุนัขหรือห้ามถูกตัวสุนัข
หลักๆ แล้วไม่ใช่ว่าห้ามเลี้ยงสุนัข แต่อิสลามไม่ห้ามไม่ให้โดนสุนัขเปียก และน้ำลายสุนัข
.
ก่อนอื่นต้องเข้าใจใหม่ว่า อิสลามมิได้สอนให้มุสลิมเกลียดชังสุนัข เพียงแต่ การทำความสะอาดอันเนื่องจากน้ำลายของสุนัขนั้นเกิดความยากลำบากเท่านั้นเอง อาทิเช่น หากน้ำลายของสุนัขเลียภาชนะของมุสลิม จำเป็นจะต้องล้างน้ำ 7 ครั้ง ครั้งแรกให้ล้างน้ำดิน ที่เหลืออีกหกให้ล้างน้ำเปล่า ฉะนั้นหากมุสลิมเลี้ยงสุนัขภายในบ้าน ลองคิดดูเล่นๆ ก็ได้ว่าจะต้องตามล้างด้วยน้ำดินกันไม่รู้จักจับสิ้นนั่นเอง
.
แต่ทว่า อิสลามอนุญาตให้เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าสวนได้ เลี้ยงเพื่อให้มันดูแลฝูงสัตว์ได้ เลี้ยงเพื่อล่าสัตว์อื่นเป็นอาหารได้ ฉะนั้นหากจะบอกว่ามุสลิมเกลียดสุนัขก็คงไม่ถูกแล้ว อนึ่ง ท่านนบีเคยเล่าให้ฟังว่า มีสตรีโสเภณีคนหนึ่งตักน้ำให้สุนัขตัวหนึ่งดื่ม อันเนื่องจากสุนัขตัวนั้นหิวแต่ไม่สามารถดื่มน้ำในบ่อน้ำนั้นได้ นางจึงให้รองเท้าของนางตักน้ำให้มันดื่ม ท่านนบีจึงกล่าวว่า การกระทำข้างต้นนางได้รับสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน ฉะนั้นเราจะต้องอธิบายให้คนต่างศาสนิกฟังใหม่ว่า มุสลิมไม่ได้เกลียดสุนัข แต่มุสลิมจะทำอะไรนั้นต้องมีขอบเขตที่ศาสนากำหนดไว้เท่านั้นเอง
Tags: