การละหมาดคือความเมตตาและความห่วงใยของอัลลอฮ์ที่มีต่อมนุษย์
ถ้าจะสอนวิชาแคลคูลัสที่เป็นวิชาคณิตศาสตร์ชั้นสูงให้เด็กชั้นประถมต้น คงไม่มีเด็กคนไหนเข้าใจ เด็กจึงต้องรู้จักตัวเลขและถูกฝึกให้รู้จักวิธีการบวก ลบ คูณ หาร เป็นเบื้องแรกเสียก่อน
ศาสนาก็เป็นศาสตร์การใช้ชีวิตที่เด็กและวัยรุ่นอาจไม่เข้าใจ ต่อเมื่อมีปัญญาหรือเข้าใจว่าโลกหลังความตายมีจริง จึงรู้ซึ้งถึงความสำคัญของศาสนา ดังนั้น เด็กจึงต้องได้รับความรู้ศาสนาตั้งแต่เยาว์วัยควบคู่ไปกับวิชาสามัญ
อิสลามถือว่าการแสวงหาความรู้เป็นข้อบังคับทั้งทางด้านโลกและทางธรรม และอิสลามกำหนดให้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ต้องส่งลูกของตัวเองให้เรียนศาสนาตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนสามารถละหมาดได้ และเมื่อเด็กอายุ 10 ขวบแล้วไม่ละหมาด พ่อแม่ได้รับอนุญาตให้ลงโทษลูกของตัวเอง
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเมื่อเด็กบรรลุวัยผู้ใหญ่ที่จะต้องรับผิดชอบต่อบาปบุญคุณโทษ เด็กจะได้ดำรงความเป็นมุสลิมและสามารถสืบทอดวัฒนธรรมทางจิตวิตญาณของบรรพบุรุษต่อไปได้ แต่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การให้เด็กเรียนศาสนาและฝึกละหมาดก็เพื่อเป็นการให้วัคซีนทางจิตวิญญาณแก่เด็กควบคู่ไปกับวัคซีนป้องกันโรคบางอย่างทางด้านร่างกาย
ในอิสลาม ความเป็นผู้ใหญ่ของเด็กผู้ชายเริ่มต้นตั้งแต่เด็กมีความรู้สึกทางเพศซึ่งจะสังเกตุได้จากการที่เด็กเริ่มมีการฝันเปียก ส่วนเด็กผู้หญิงเริ่มบรรลุวัยผู้ใหญ่เมื่อมีประจำเดือนครั้งแรก
หากใครสงสัยว่าทำไมอิสลามจึงให้ความสำคัญเรื่องละหมาดก็ขอให้ทำความเข้าใจจากความจริงต่อไปนี้
ความรักลูกเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่พ่อแม่เพื่อปกป้องดูแลลูกของตัวเอง ไม่มีพ่อแม่คนใดนิ่งเฉยอยู่ได้เมื่อเห็นลูกเล็กของตนคลานหรือเดินเข้าไปใกล้กองไฟ เพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง
เมื่อโตขึ้น เด็กเริ่มรู้ว่าไฟร้อน จึงไม่เข้าใกล้ แต่มนุษย์ไม่ได้มีชีวิตอยู่แค่เพียงโลกใบนี้เท่านั้น หลังความตายยังมีอีกโลกหนึ่งซึ่งเป็นโลกแห่งการตัดสินที่มีนรกและสวรรค์รอมนุษย์อยู่ สวรรค์เป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนปรารถนา ส่วนนรกนั้นไม่มีใครอยากไปเพราะเมื่อพูดถึงนรกแล้ว คำสอนของทุกศาสนาพูดเหมือนกันว่ามันเป็นโลกแห่งไฟสำหรับลงโทษคนทำบาป
ในตอนเป็นเด็ก มนุษย์ทุกคนมีพ่อแม่คอยปกป้องคุ้มครองมิให้อันตรายเกิดขึ้น เมื่อโตขึ้น หากพ่อแม่ยังอยู่ พ่อแม่ก็อาจทำหน้าที่ตักเตือนลูกของตัวเองมิให้ทำความชั่วอันเป็นสาเหตุนำไปสู่ไฟนรกได้เพราะความหวังดี ยกเว้นพ่อแม่จะเฉยเมยต่อพฤติกรรมบาปของลูกตัวเองหรือลูกจะเชื่อฟังพ่อแม่หรือไม่
แต่เมื่อเพื่อแม่ตายจากไปหรือลูกไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ใครเล่าที่จะทำหน้าที่ตักเตือน?
ด้วยเหตุนี้เอง พระเจ้าจึงกำหนดให้มุสลิมมีหน้าที่ต้องละหมาดวันละ 5 เวลาเพื่อเป็นการเตือนตัวเองมิให้ทำบาป คัมภีร์กุรอานกล่าวไว้ว่า “แท้จริงการละหมาดจะช่วยยับยั้งจากความชั่วช้าและความลามก”
การละหมาดจึงถือเป็นความรัก ความเมตตาและความห่วงใยที่อัลลอฮ์(พระเจ้า)มีต่อมนุษย์ในยามที่ไม่มีผู้หวังดีคนใดคอยตักเตือนหรือยับยั้งมนุษย์มิให้ทำความชั่วหรือทำบาปที่จะนำเขาไปสู่ไฟนรก
มีคำสอนของนบีมุฮัมมัดอีกมากมายที่พูดถึงความสำคัญของการละหมาด เช่น การละหมาดเป็นรากฐานของศาสนา การละหมาดเป็นสิ่งที่ใช้จำแนกอย่างชัดเจนว่าใครเป็นมุสลิม ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพหลังความตาย สิ่งแรกที่อัลลอฮ์(พระเจ้า)จะถามมนุษย์ก็คือการละหมาด
credit: บรรจง บินกาซัน
Tags: