คุณประโยชน์ของการคลุมฮิญาบ
การสวมฮิญาบ เป็นหน้าที่ทางด้านศีลธรรมในอิสลามที่ถูกนำมาอภิปรายอยู่บ่อยครั้งท่ามกลาง บรรดาสตรีมุสลิม แต่มีน้อยคนนักที่จะกล่าวถึงเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องการคลุมฮิญาบ การสวมฮิญาบมีผลประโยชน์มากมายทั้งต่อด้านสุขภาพร่างกาย ศีลธรรม และสังคม นอกจากนี้ จากการศึกษาค้นคว้าวิทยาศาสตร์ด้านบุคลิกภาพ ยังได้ค้นพบผลประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ที่แสดงให้เห็นว่า การสวมฮิญาบเป็นเครื่องแต่งกายที่ดีที่สุดสำหรับสตรี
นักวิจัยค้นคว้าวิทยา ศาสตร์ด้านการแพทย์ได้ให้ทัศนวิสัยด้านสุขภาพว่า การปกป้องศรีษะเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์ เพราะจากการทดสอบทางการแพทย์ค้นพบว่า 40-60 % ของความร้อนในร่างกาย จะสูญเสียออกไปผ่านทางศรีษะ ดังนั้นผู้ที่สวมผ้าคลุมหรือฮิญาบในช่วงฤดูหนาว จะได้รับการปกป้องจากความหนาวย็นมากกว่าคนที่ไม่ได้ใส่ถึง 50%
แต่ในตำราด้านการแพทย์ ของชาวจีนและมุสลิม ได้ให้ข้อมูลที่มีรายละเอียดมากขึ้น เช่น ในตำรา ฮัว ดิ เนีย จิง( Hua Di Nei Jing) (อายุรศาสตร์ภายในแบบดั้งเดิมของจักรพรรดิเหลือง ) ได้กล่าวไว้ว่า ลมเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ภายในร่างกาย ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน และการเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆ และการเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่ส่งผลทำให้สูญเสียความสมดุลของร่างกาย และเป็นสาเหตุทำให้มีสุขภาพที่ไม่ดี
จากตำราข้างต้นนี้ สามารถให้เหตุผลได้ว่าไข้หวัดทั่วไป มีปัจจัยมาจาก การที่ลมเข้าสู่ร่างกาย และส่งผลทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ตามมา เช่น อาการจาม น้ำมูกไหล ในตำราด้านการแพทย์ของอิสลาม “อัลญาซิฮ์ยา” ก็เช่นเดียวกัน ได้มีการอ้างอิงถึงสี่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ คือ ไฟ น้ำ อากาศ และดิน นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงวิธีการที่ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อร่างกายในรูปแบบ ต่างๆไว้ด้วย จะเห็นหลายๆคนโดยเฉพาะเด็กมักจะได้รับคำแนะนำให้อยู่ห่างจากกระแสลม ปกป้องศรีษะจากลม สายลม กระแสลม และ สภาพอากาศที่หนาวเย็นอยู่บ่อยๆ
วิทยาศาสตร์แนะนำ พนักงานกลางแจ้ง ควรสวมผ้าปกปิดศรีษะ การปกป้องศรีษะเป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน ในสภาพอากาศที่อบอุ่น วี.จี. รอซีน นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านสมองที่เก่งที่สุด ได้ค้นพบว่า ธาตุฟอสฟอรัสในสมองของมนุษย์ จะละลายที่อุณหภูมิ 108 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่จะมีผลกระทบต่อสมองของมนุษย์ หากพวกเขาอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนเป็นระยะเวลานาน โดยไม่มีผ้าคลุมศรีษะ เมื่อศรีษะได้รับความร้อนที่มากเกินไป จะส่งผมทำให้เกิดความเสียหายในสมอง สูญเสียความทรงจำ และสูญเสียการทำงานของสมองบางส่วนไป ไม่ใช่แค่อุณภูมิสูงเท่านั้นที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายในสมอง แม้แต่ในองศาที่มีขนาดเล็ก ถ้ามีการสัมผัสบ่อยๆ และปล่อยให้ศรีษะเจอความร้อนที่มากเกินไป
เบอร์นาร์ด เจนเซ่น แพทย์ไม่พึ่งยา และ หมอนวดบำบัด ได้กล่าวว่า ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ สมองทำงานอยู่บนแร่ฟอสฟอรัส ซึ่งถ้าศรีษะสูญเสียแร่ฟอสฟอรัสเนื่องจากความร้อน สมองก็จะได้รับผลกระทบจากความร้อนเช่นเดียวกัน
ผลประโยชน์ของฮิญาบด้านสุขอนามัย :
คนงานทุกคนที่ทำงาน ด้านการรับใช้สังคมควรจะสวมผ้าคลุม หรือ ปกปิดศรีษะ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนอื่นในเรื่อง สุขอนามัยและการรักษาความสะอาด จะเห็นว่าคนงานมืออาชีพในสังคมส่วนมากจะสวมใส่ ” ผ้าคลุมศรีษะ ” เช่น พยาบาล พนักงานอาหารฟาสท์ฟูด และพนักงงานอาหารสำเร็จรูป พนักงานร้านอาหาร และบริการ แพทย์ ผู้ให้การดูแลด้านสุขภาพและ พนักงานอื่น ๆ อีกมากมาย แท้ที่จริงแล้ว เมื่อเราเปรียบเทียบจำนวนของพนักงานที่คลุมศรีษะ กับพนักงานที่ไม่ได้คลุมศรีษะ จะพบว่า จำนวนผู้คลุมศรีษะมีมากกว่าคนที่ไม่คลุมศรีษะเสียอีก เพราะการคลุมศรีษะในหลายๆที่เป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าและผู้ใช้ บริการได้ดีกว่า
การคลุมฮิญาบ เป็นการรับใช้ศาสนาอย่างหนึ่ง คือ เป็นการย้ำเตือนผู้หญิงให้ทำหน้าที่ทางศาสนาของพวกเขาและ เป็นตัวบ่งบอกพฤติกรรมของพวกเขา นอกจากนี้การคลุมฮิญาบ ยังทำหน้าที่รับใช้ศาสนาเพื่อเป็นการเตือนสติให้ผู้หญิงรู้ว่า การคลุมฮิญาบไม่ใช่มีผลดีต่อเธอคนเดียว แต่เมื่อสวมแล้วเธอยังเป็นตัวแทน และเป็นทูตแห่งอุมมะฮ์(ประชาชาติ)ของพระเจ้าด้วย
ผลการวิจัย ในรัฐควิเบกยัน ฮิญาบไม่ก่อปัญหาต่อสังคม,หลังหญิงที่สวมใส่มักถูกกีดขวางในการทำงาน มีรายงานว่า ผลการวิจัยเกี่ยวกับผู้อพยพในรัฐควิเบก ประเทศแคนาดาใน 1 ปี ชี้ให้เห็นว่าฮิญาบไม่ก่อปัญหาต่อสังคมควิเบก และพวกเขาได้เลือกที่จะสวมใส่ฮิญาบด้วยความสมัครใจของตนเอง
ผลการวิจัยนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า การกีดกันในการสวมใส่ฮิญาบในรูปแบบอิสลามจะมีผลเสียในสังคมเป็นอย่างมาก และชี้ให้เห็นอีกว่ามีการเลือกปฏิบัติกับสตรีที่สวมใส่ฮิญาบโดยสตรีที่สวมใส่ฮิญาบต้องทนทุกข์ทรมานกับการที่จะต้องถูกกีดขวางในการหางาน เพราะผู้จ้างมักจะมีความหวาดกลัวที่จะจ้างสตรีที่สวมใส่ฮิญาบ
นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้เน้นอีกว่า กฏนานาชาติและกฏหมายในรัฐควิเบก ได้ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาอย่างเป็นทางการแล้ว และการที่สตรีมุสลิมจะรักษาฮิญาบของตนเองในเงื่อนไขของกฏหมายเหล่านี้ ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
Tags: