ประกาศขายทอดตลาด “บ้านมือ2” ใน 3 จังหวัดชายแดนใต
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยความคืบหน้าโครงการบ้านมือสองสำหรับผู้มีรายได้น้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ที่ผ่านมามีทรัพย์สินถูกขายทอดตลาดจากคำสั่งของศาลจำนวนมาก ในช่วง พ.ย.2560 มีทรัพย์สินเป็นที่ดินว่างเปล่าและที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างถูกยึดในชั้นบังคับคดีอยู่ระหว่างการประกาศขายทอดตลาดรวมทั้งสิ้น 208.93 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนไม่ให้คนในพื้นที่ 3 จังหวัด ไม่ย้ายถิ่นฐานออกนอกพื้นที่ อีกทั้งให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้และลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) จะพิจารณาให้สินเชื่อกับผู้ซื้อบ้านมือสองในโครงการนี้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท
อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ จ.ปัตตานีมี ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 55 แปลง ราคาประเมินรวม 23.67 ล้านบาท เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างราคาไม่เกิน 5 แสนบาท 33 แปลง ราคาประเมิน 9.25 ล้านบาท , ราคาไม่เกิน 500,001-800,000 บาท 13 แปลงราคาประเมิน 8.13 ล้านบาท และราคาไม่เกิน 800,001-1,000,000 บาท 9 แปลง ราคาประเมิน 8.28 ล้านบาท
ส่วนที่ จ.ยะลา มีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง7 แปลงราคาประเมินรวม 3.6 ล้านบาท เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างราคาไม่เกิน 5 แสนบาท 4 แปลง ราคาประเมิน 1.27 ล้านบาท, ราคา 500,001-800,000 บาท 2 แปลง ราคาประเมิน 1.51 ล้านบาท และราคาไม่เกิน 800,001-1,000,000 บาท น 1 แปลง ราคาประเมิน 0.87 ล้านบาท
ขณะที่ จ.นราธิวาส มีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 34 แปลง ราคาประเมินรวม 17.63 ล้านบาท ราคาไม่เกิน 5 แสน 17 แปลง ราคาประเมิน 6.25 ล้านบาท, ราคา 500,001-800,000 บาท 16 แปลง ราคาประเมิน 10.22 ล้านบาท และราคาไม่เกิน 800,001-1,000,000บาท 1 แปลง 0.99 ล้านบาท รวมที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จะขายทอดตลาดจำนวน 96 แปลงราคาประเมินกว่า 46 ล้านบาท
น.ส.รื่นวดี กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่สนใจโครงการบ้านมือสองใน 3 จังหวัดสามารถวางเงินประกันร่วมประมูลทรัพย์ราคาประเมินไม่เกิน 1 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างประกาศราชกิจจานุเบกษาลดวงเงินประกันเพื่อซื้อสิ่งปลูกสร้างมือสองในพื้นที่ดังกล่าว โดยทรัพย์ราคาประเมิน 100,000-200,000 บาท วางหลักประกัน 8,000 บาท (จากเดิม 10,000 บาท) ราคาประเมินเกิน 200,000-500,000 บาท วางหลักประกัน 20,000 บาท (เดิม 25,000 บาท) และทรัพย์ราคาประเมินเกิน 500,000-1,000,000 บาท วางหลักประกัน 40,000 บาท (เดิม 50,000บาท)
ที่มา: เดลินิวส์
Tags: