วงแหวนแห่งไฟ! “ฮิซบอลเลาะห์”หนุน“ฮามาส”ลุกลุกขึ้นสู้ ต้านยิวยึดเยรูซาเลม
รัสเซียทูเดย์/รอยเตอร์ - ฮิซบอลเลาะห์เลบานอนในวันพฤหัสบดี(7ธ.ค.) สนับสนุนเสียงเรียกร้องของพวกฮามาส กลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ ที่ปลุกให้ลุกฮือครั้งใหม่ต่อต้านอิสราเอล ตอบโต้ที่สหรัฐฯรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของรัฐยิว ท่าทีที่เป็นไปตามความเห็นของผู้นำรัสเซียและตุรกีที่เตือนว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบทางลบต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
"การตอบโต้ที่สำคัญที่สุดก็คือการลุกฮือของปาเลสไตน์และที่ประชุมซัมมิตอิสลามิกจะต้องประกาศให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงชั่วนิรันดร์ของปาเลสไตน์" ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์กล่าวในถ้อยแถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ "เราสนับสนุนเสียงเรียกร้องให้เกิดการลุกฮือครั้งใหม่ในปาเลสไตน์และขยายการต่อต้านให้ใหญ่ที่สุด สำคัญที่สุดและร้ายแรงที่สุด ตอบโต้การตัดสินใจของอเมริกัน" เขากล่าว
นอกจากนี้แล้ว นาสรัลเลาะห์ ยังเรียกร้องขอแรงสนับสนุนและความเป็นอันหนึ่้งเดียวกันในหมู่ชาวมุสลิม สำหรับต่อต้านถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธ(6ธ.ค.)
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(7ธ.ค.) อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส กล่าวในการปราศรัยในกาซา เรียกร้องให้มีการลุกฮือขึ้นต่อต้านอิสราเอลครั้งใหม่ "เราควรเรียกร้องและพยายามเริ่มขบวนการอินติฟาเฎาะฮ์(ลุกฮือ) ในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูไซออนนิสต์" ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของอเมริกา
ทรัมป์ ในวันพุธ(6ธ.ค.) ตัดสินใจฝ่ายเดียวรับรองเมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แม้ว่าชาวปาเลสไตน์จะมองพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองแห่งนี้ในฐานะ ว่าที่เมืองหลวงรัฐเอกราชของพวกเขาในอนาคต
นาสรัลเลาะห์ ชี้ว่าวอชิงตันไม่คำนึงถึงชาวปาเลสไตน์ "ทั้งที่สหรัฐฯคือผู้รับประกันข้อตกลงต่างๆระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์" พร้อมระบุ ถ้อยแถลงของทรัมป์เป็นการบอกกับอิสราเอลตรงๆว่า "นี่ไง เยรูซาเลมของคุณ และมันอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของคุณ"
ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ ยังได้ฝากคำเตือนถึงชาวมุสลิมว่าตอนนี้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของพวกเขาภายในเมือง อย่างเช่นมัสยิดอัล-อักซา ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง "อย่าได้แปลกใจ หากวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาพบว่ามัสยิดอัล-อักซา ถูกทำลายแล้ว" เขากล่าว พร้อมประกาศนัดชุมนุมในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนในวันจันทร์(11ธ.ค.) "ต่อไปชะตากรรมของชาวบ้านปาเลสไตน์ในเยรูซาเลมจะเป็นอย่างไร ชะตากรรมสินทรัพย์ของชาวปาเลสไตน์ในเยรูซาเลมจะเป็นอย่างไร มันจะถูกยึดหรือถูกทำลาย"
เสียงเรียกร้องของฮิซบอลเลาะห์และฮามาส เป็นไปตามคำเตือนของวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียและประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดกัน ที่เห็นพ้องระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ในวันพฤหัสบดี(7ธ.ค.) ว่าการตัดสินใจของสหรัฐฯจะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
ส่วนนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีในวันพฤหัสบดี(7ธ.ค.) ระบุว่าเยอรมนียึดมั่นมติของสหประชาชาติ ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ หลัง ทรัมป์ ตัดสินใจรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลและจะย้ายสถานทูตสหรัฐฯไปที่นั่น
"เรายึดมั่นในมติสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมันระบุชัดเจนว่าสถานะของเยรูซาเลมจำเป็นต้องมีการเจรจา ส่วนหนึ่งของการพูดคุยตกลงตามหลักการการดำรงอยู่ของสองรัฐเคียงคู่กัน (Two-State Solution) และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องการให้รื้อฟื้นกระบวนการนี้" แมร์เคิลกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้ในวันพุธ(6ธ.ค.) เธอบอกว่าเยอรมนีไม่สนับสนุนการตัดสินใจของทรัมป์
ที่มา: mgronline.com
Tags: