จอร์แดนชี้ “ทรัมป์” รับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงยิว “ไร้ผลทางกฎหมาย”
รอยเตอร์ - รัฐบาลจอร์แดนระบุวานนี้ (6 ธ.ค.) ว่าคำประกาศของสหรัฐฯ ที่รับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลนั้น “ไร้ผลในทางกฎหมาย” เพราะเท่ากับให้ท้ายรัฐบาลยิวที่เข้าไปยึดเยรูซาเลมฝั่งตะวันออกโดยปราศจากการยอมรับของนานาชาติ
โมฮัมหมัด อัล-โมมานี โฆษกรัฐบาลจอร์แดน ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเปตราว่า คำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถือว่าละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ “ซึ่งไม่ยอมรับการที่อิสราเอลเข้าไปยึดครอง” เยรูซาเลมฝั่งตะวันออกที่ติดกับเวสต์แบงค์
จอร์แดนซึ่งเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของอเมริกา “ถือว่าการกระทำฝ่ายเดียวที่มุ่งสร้างข้อเท็จจริงใหม่ เป็นโมฆะ และไร้ผลในทางกฎหมาย” โฆษกผู้นี้กล่าว
อัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจอร์แดน ได้ทวีตข้อความตำหนิ ทรัมป์ ว่า “สร้างความปั่นป่วน” ต่อกระบวนการสันติภาพ พร้อมย้ำว่าสถานะของเยรูซาเลมจะต้องมาจากการตัดสินใจระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลผ่านการเจรจาทางตรงเท่านั้น
“รัฐบาลจอร์แดนไม่ยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้ รวมถึงเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง และจะยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อสนับสนุนรัฐปาเลสไตน์ที่มีเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวง” ซาฟาดีกล่าว
จอร์แดนสูญเสียเยรูซาเลมตะวันออก และเขตเวสต์แบงก์ให้แก่อิสราเอลระหว่างสงครามปี 1967 และยืนยันว่าจะต้องมีการทำข้อตกลงสันติภาพเพื่อกำหนดอนาคตของนครศักดิ์สิทธิ์นี้
ชาวปาเลสไตน์หวังที่สร้างเมืองหลวงของรัฐตนเองขึ้นที่เยรูซาเลมฝั่งตะวันออก ในขณะที่อิสราเอลถือว่านครแห่งนี้เป็น “เมืองหลวงตลอดกาลอันจะแบ่งแยกมิได้” ของชาวยิว
สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดน ทรงเตือนผ่านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สิ่งที่ ทรัมป์ คิดจะทำนั้นจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงจากทั่วทั้งตะวันออกกลาง
ราชวงศ์ฮาชิไมต์ของจอร์แดนทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องศาสนสถานของมุสลิมที่นครเยรูซาเลม การเปลี่ยนแปลงสถานะของนครแห่งนี้จึงเป็นสิ่งที่จอร์แดนไม่อาจนิ่งเฉย
แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ เตรียมเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์แดนในวันนี้ (7) เพื่อหารือมาตรการตอบโต้ทางการทูต
ประชาชนชาวจอร์แดนและผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ซึ่งอาศัยอยู่ที่กรุงอัมมานได้ออกมาชุมนุมต่อต้านสหรัฐฯ และเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อตกลงสันติภาพที่ทำกับอิสราเอลในปี 1994
ระหว่างการประชุมสภาสมัยวิสามัญเมื่อวานนี้ (6) ส.ส.จอร์แดนหลายคนเรียกร้องให้ขับไล่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และบอยคอตสินค้าอเมริกัน ขณะที่นักเคลื่อนไหวสิบกว่าคนไปปักหลักชุมนุมที่ด้านนอกสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงอัมมาน
ชาวจอร์แดนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ที่ครอบครัวอพยพออกมา หลังจากมีการสถาปนารัฐอิสราเอลขึ้นในปี 1948
ที่มา: manager.co.th
Tags: