ระทึก! ไฟไหม้“รถทัวว์” กลางเมืองภูเก็ต นักท่องเที่ยวเต็มคันรถ หนีตายจ้าละหวั่น
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุไฟลุกไหม้รถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเต็มคันรถ บริเวณถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ตตรงข้ามโชว์รูมศูนย์อีซูซุเกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.สานิต หนูคง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.เกาะแก้ว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเข้าสนับสนุน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองภูเก็ต คอยอำนวยความสะดวกด้านจราจร ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตก็ได้เข้าร่วมดูแลในส่วนของนักท่องเที่ยวด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุบนถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ต (ตรงข้ามศูนย์อีซูซุเกาะแก้ว) พบรถบัสสีขาวป้ายเหลือง หมายเลขทะเบียน 30-0226 พัทลุง มีไฟกำลังลุกไม้บริเวณภายในตัวรถ จึงได้พยายามใช้น้ำฉีดสกัดเปลวเพลิง เพื่อป้องกันไม่ลุกลามไปยังจุดใกล้เคียง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถสกัดเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบเบื้องต้นรถบัสดังกล่าวเสียหายทั้งคัน
จากการสอบถามนายประเสริฐ อินทรัตน์ อายุ 38 ปี พนักงานขับรถ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 26 คน กลับมาจาก จ.พังงา เพื่อไปรับประทานอาหารและส่งกลับที่พักในตัวเมืองภูเก็ต แต่เมื่อขับรถผ่านวงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร มาได้เล็กน้อย ไกด์ประจำรถได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า ได้กลิ่นเหม็นไหม้และเห็นมีควันออกมาจากช่องแอร์ ตนจึงได้นำรถเข้าข้างทาง และมาจอดยังจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ไกด์แจ้งนักท่องเที่ยวเก็บทรัพย์สินออกจากตัวรถ
หลังจากนักท่องเที่ยวทั้งหมดและไกด์ลงจากรถได้ไม่นาน ปรากฏว่ามีประกายไฟลุกไหม้มาจากช่องแอร์ โดยตนพยายามให้ใช้ถังดับเพลิงฉีดเข้าไปยังบริเวณที่มีเปลวไฟออกมาแต่ไม่สำเร็จ และได้ลุกลามออกมายังส่วนอื่นๆ ของตัวรถ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ฯ นำรถดับเพลิงเข้ามาช่วยจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทราบว่ารถคันดังกล่าวบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวจีนของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งเดินทางเข้ามายัง จ.ภูเก็ตเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา และในวันนี้นักท่องเที่ยวทั้งหมดเดินทางไปเที่ยว จ.พังงา ก่อนที่จะเกิดเหตุดังกล่าว โดยทางบริษัทฯ ได้มีการประสานรถบัสอีกคันรับนักท่องเที่ยวกลับที่พัก ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง
ที่มา: WorkpointNews
Tags: