5 สูตรน้ำสลัดไม่มีไข่ ได้ใจหุ่นสวย
น้ำสลัดที่มีขายอยู่ทั่วไปอาจจะทำให้คุณไม่แน่ใจว่าจะสามารถช่วยลดความอ้วน หรือว่าส่งผลดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ เพราะไม่รู้เลยว่ามีส่วนผสมอะไรอยู่ในนั้นบ้าง หลายคนจึงคิดอยากจะทำน้ำสลัดขึ้นมารับประทานเอง เพราะนอกจากจะมั่นใจในส่วนผสมแล้ว ยังสามารถปรุงแต่งรสชาติให้ถูกปากตัวเองอีกด้วย
วันนี้เราขอนำเสนอ 5 สูตรน้ำสลัดไม่ใส่ไข่เพื่อสุขภาพให้คุณได้ลองทำรับประทานอร่อย ๆ ได้เองที่บ้าน รีบจดสูตรแล้วลงมือทำกันเลยค่ะ
1. น้ำสลัดญี่ปุ่นงาน้ำใส
น้ำสลัดสูตรนี้โดดเด่นที่รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน กลมกล่อมลงตัว ไม่มีส่วนผสมของครีม ช่วยให้เจริญอาหาร เหมาะที่จะรับประทาน
กับผักอย่างผักกาดแก้ว มะเขือเทศ วอเตอร์เครส
ส่วนผสม น้ำสลัดซีอิ๊วญี่ปุ่นน้ำใส
► น้ำ 230 มิลลิลิตร
► น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) 150 มิลลิลิตร
► น้ำตาลทราย 150 กรัม
► เกลือ 1/4 ช้อนโต๊ะ
► วาซาบิ 1/4 ช้อนโต๊ะ
► งาขาวคั่ว ตามชอบ
► ซอสโชยุญี่ปุ่น 125 มิลลิลิตร
► น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
► น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำสลัดซีอิ๊วญี่ปุ่นน้ำใส
1. เติมน้ำ น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวจนเดือด ทิ้งไว้จนเย็นสนิท
2. เทส่วนผสมที่ได้ลงในโถปั่น ใส่งา และวาซาบิ ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. เติมซอสโชยุญี่ปุ่น น้ำมันมะกอก และน้ำมันงา คนผสมให้เข้ากัน เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บไว้ในตู้เย็น
2. น้ำสลัดครีมวาซาบิ
สลัดครีมแบบเดิม ๆ อาจจะดูน่าเบื่อไปสักนิด สูตรนี้ขอเพิ่มความแสบซ่าด้วยวาซาบิลงไปเพื่อให้มีรสชาติที่แปลกใหม่ และยังทำให้สลัดจานโปรดของคุณอร่อยมากยิ่งขึ้นอักด้วย แถมสีเขียวครีมอ่อน ๆ รากบนผักสลัดยังชวนรับประทานมากทีเดียว
ส่วนผสม น้ำสลัดครีมวาซาบิ
► น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) 100 มิลลิลิตร
► น้ำตาลทราย 100 กรัม
► เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
► น้ำมันมะกอก 250 มิลลิลิตร
► นมข้นหวาน 60 กรัม
► วาซาบิสด 1/8 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำสลัดครีมวาซาบิ
1. ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำตาลทราย และเกลือในอ่างผสม คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2. ค่อย ๆ เทน้ำมันมะกอกลงไป คนผสมเร็ว ๆ จนน้ำมันเป็นเนื้อเดียวกับน้ำส้ม
3. เทส่วนผสมลงโถปั่น ปั่นจนส่วนผสมเหนียว เติมนมข้นหวาน และวาซาบิสดลงไปปั่นอีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บไว้ในตู้เย็นได้ถึง 20 วัน
3. น้ำสลัดครีมสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต
เช่นเดียวกับน้ำสลัดครีมวาซาบิ แต่เปลี่ยนเป็นรสสตรอเบอร์รี่ที่ได้ออกมาเป็นน้ำสลัดสีชมพูสวย รสชาติหวานอมเปรี้ยว ส่งกลิ่นหอม ๆ ของสตรอเบอร์รี่ และโยเกิร์ต คงจะถูกใจสาว ๆ น่าดู
ส่วนผสม น้ำสลัดครีมสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต
► น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) 400 มิลลิลิตร
► น้ำตาลทราย 400 กรัม
► เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ
► น้ำมันมะกอก 1 ลิตร
► นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
► สตรอเบอร์รี่แช่แข็ง 500 กรัม
► โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ถ้วย
วิธีทำน้ำสลัดครีมสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต
1. ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำตาลทราย และเกลือในอ่างผสม คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2. ค่อยๆ เทน้ำมันมะกอกลงไป คนผสมเร็ว ๆ จนน้ำมันเป็นเนื้อเดียวกับน้ำส้ม
3. เทส่วนผสมลงโถปั่น ปั่นจนส่วนผสมเหนียว เติมนมข้นหวาน สตรอเบอร์รี่แช่แข็ง และโยเกิร์ตลงไปปั่นอีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บไว้ในตู้เย็น
4. น้ำสลัดฟักทองญี่ปุ่นงาดำ
น้ำสลัดสูตรสุขภาพสีเหลืองสดใส รสชาติกลมกล่อม ได้ความหวานจากเนื้อฟักทอง และได้คุณประโยชน์จากงาขาว และงาดำ แนะนำให้รับประทานกับธัญพืชจะอร่อยมาก
ส่วนผสม น้ำสลัดฟักทองญี่ปุ่นงาดำ
► น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) 300 มิลลิลิตร
► น้ำตาลทราย 300 กรัม
► เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
► น้ำมันมะกอก 1 ลิตร
► ฟักทองญี่ปุ่นนึ่งสุก 500 กรัม
► งาขาว และงาดำปริมาณตามชอบ
วิธีทำน้ำสลัดฟักทองญี่ปุ่นงาดำ
1. ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำตาลทราย และเกลือในอ่างผสม คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2. เทส่วนผสมลงโถปั่น เติมน้ำมันมะกอก และฟักทองลงไปปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่งาขาว และงาดำ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บไว้ในตู้เย็น
5. น้ำสลัดน้ำผึ้งมะนาวงา
สูตรน้ำสลัดที่ง่ายที่สุดเหมาะกับผู้ที่มีเวลาไม่มากนัก เป็นสูตรไร้ไขมัน และปราศจากคลอเรสเตอรอลอีกด้วย ใครที่ลดความอ้วนแนะนำให้รับประทานสูตรนี้นะคะ
ส่วนผสม น้ำสลัดน้ำผึ้งมะนาวงา
► น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
► น้ำมะนาวคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ
► เกลือสำหรับปรุงรส
► น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
► งาขาวคั่ว ตามชอบ
วิธีทำน้ำสลัดน้ำผึ้งมะนาวงา
1. คนผสมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และเกลือให้เข้ากัน
2. เติมน้ำมันมะกอกคนให้เข้ากัน
3. ใส่งาขาว และงาดำ คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บไว้ในตู้เย็น
ใครบอกว่าลดความอ้วนเป็นเรื่องยาก ถ้าได้ลองนำสูตรน้ำสลัดออกแบบได้ตามใจฉันแบบนี้ไปทำเก็บไว้ในตู้เย็นที่บ้าน อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องไปพลิกแผ่นดินหาซื้อน้ำสลัดที่ไหน แค่เปิดตู้เย็นก็เจอแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยให้การรับประทานสลัดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ที่มา: kapook
Tags: