อุทาหรณ์สอนใจ.....รถพลิกคว่ำรถตะแคงข้าง แต่เด็ก 4 เดือนรอดมาได้เพราะ “คาร์ซีท”
สาวเล่าอุทาหรณ์การขับรถเกิดอุบัติเหตุ รถตะแคงข้างท้องชี้้ฟ้า แต่รอดมาได้เพราะการคาดเข็มขัดนิรภัย และให้ลูกน้อย 4 เดือนนั่งคาร์ซีท
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 เฟซบุ๊ก Siriyakorn Mintirat ได้มีการเขียนเล่าประสบการณ์การขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักตกข้างทาง แต่เป็นเพราะการรัดเข็มขัดนิรภัยกับการนำลูกน้อยวัย 4 เดือนนั่งคาร์ซีท ทำให้รอดชีวิตมาได้ มีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
ขอเรียกทุกความโชคดีที่เกิดขึ้นว่า...ปาติหารย์ความรัก...??
(ขอบคุณทุกความห่วงใยจากทุกคนทั้งที่มาเยี่ยม และโทรหาเป็นหลาย100สาย ทั้งอินบ๊อก ไลน์ เฟส เข้ามาถามไถ่)
จึงขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนที่เป็นห่วงได้ทราบข่าว
เมื่อวันอังคารที่ 21 พ.ย 60 เวลาประมาณ 15:45 น. ครอบครัว (หนุ่มเอ๋วีเทควีซ่า) หลังจากพาลูกไปฉีดวัคซีนที่ร้อยเอ็ด และกำลังนั่งรถยนต์ ปาเจโร่ กข1313 กลับบ้านสวนที่ อ.ปทุมรัตต์ โดยขับมาตามถนนสายร้อยเอ็ด-จัตุรพักมิมาน ผ่านเขตอำเภอเกษตรวิสัย กำลังจะเข้าเขตอำเภอปทุมรัตต์ ได้เกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักลงข้างทาง ด้วยการมีสติของสามีจึงประคองพวงมาลัยดึงรถขึ้นถนนทำให้รถหมุนกลับมาอีกฝากเลน ซึ่งริมทางเป็นทุ่งนามีความลึกจากถนนประมาณ 10 เมตร ด้วยความโชคดี ข้างทางตรงนั้นมีต้นไม้ยูคาเพียงต้นเดียว(ย้ำว่าต้นเดียว) และต้องชื่นชมสามีที่มีสติตลอดการขับรถและประคองรถจนในที่สุดรถไปชนกับต้นไม้แอร์แบคคู่หน้าทำงานและแตกทันทีด้วยแรงกระแทกและรถได้ตะแคงคว่ำหันหน้ามาทางร้อยเอ็ด เอ๋วีเทคนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของรถซึ่งตะแคงติดพื้น ส่วนหนุ่มและวีซ่านั่งอยู่ฝั่งขวาคือลอยติดเบาะด้านบน(วีซ่าอายุเพียง4เดือนคอยังไม่แข็งหัวห้อยลงมาเพราะรถตะแคงคว่ำ)โชคดีที่ลูกทั้ง2นั่งคาร์ซีทเด็ก เบาะช่วยเซฟรัดตัวเด็กได้ดีจึงไม่กระเด็นตกลงมา และตอนนั้นเอ๋ยังพอมีสติ รู้ว่าศรีษะโขกกับกระจกด้านหน้า ตัวและคอพาดสายเบลท์ และหัวฟุบคาคอนโซล แล้วมีเลือดไหลอาบลงมาเต็มเสื้อ เสียงสามีเรียกชื่อเราตลอด เอ๋ เอ๋ อย่าเป็นไรนะ มือซ้ายเอ๋ยังถือโทรศัพท์ทันใดนั้นพี่ชายได้โทรเข้ามาพอดี จึงรับแล้วบอกกับพี่ว่า "เอ๋รถชน"
ช่วงเวลาที่เหตุเกิดไม่กี่นาที ต้องขอชื่นชมสามีที่มีสติ และเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ร่างกายแข็งแรงเพราะชอบเล่นกีฬาฟุตบอล ทั้งที่หนุ่มก็เจ็บและมีแผลจากแรงกระแทก แต่ด้วยความรัก ห่วงภรรยาและลูก และในตอนนั้นเริ่มมีควันที่ตัวเครื่อง รถล็อคอัตโนมัติ หนุ่มจึงพยายามใช้มือทุบกระจก เท้าถีบ เท้ายันให้กระจกหลุดแล้วใช้มือเปล่าดึงกระจกออกเพื่อพาลูกเมียออกไปจากรถให้ได้ หนุ่มรีบปลดเบลท์วีซ่าให้ลูกหลุดจากเบาะ วีซ่าเลือดอาบเต็มหน้าร้องไห้ตลอดเวลา หนุ่มรีบพาตัววีซ่าออกไปเป็นคนแรกแล้ววางลูกไว้ริมถนน แล้วรีบกลับมาในรถนำตัววีเทคออกไปยืนข้างน้อง แล้วรีบมาดึงตัวภรรยาออกไปจากรถเป็นคนสุดท้ายในเวลารวดเร็ว
แล้วหนุ่มก็คลานลากเข่าแตกด้วยเลือดไปกลางถนนเพื่อโบกรถ ร้องไห้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของลูกๆ และเสียงครวญครางเจ็บปวดของภรรยา...ช่วยลูกเมียผมด้วย ๆๆๆๆ !!
มีรถวิ่งผ่านมา แต่กลับ...ขับหลบไปเลนซ้ายแล้วขับผ่านไปโดยไม่จอด ไม่ชะลอรถ ไม่แม้แต่จะเปิดกระจกออกมาดู มีรถขับผ่านไปเฉยๆ ถึง 6 คัน!! ในที่สุด น้ำใจคนไทยยังหาได้ มีพลเมืองดีคนนึงจอดรถ และเข้ามาถามไถ่ให้ความช่วยเหลือ พาเอ๋สามีและลูกๆไปโรงพยาบาลใกล้เคียง เอ๋จำได้เพียงว่าตลอดระยะทางที่นั่งอยู่หลังกระบะโดยการช่วยพยุงตัวจากชายที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้า แต่ชายคนนั้นไม่รังเกียจเลือดที่เปื้อนเต็มตัวเอ๋เลย แล้วยังคอยเรียกสติเอ๋ตลอดเวลา "อย่าหลับนะครับ อดทนนะครับ" พาครอบครัวเราไปส่งถึงโรงพยาบาลปทุมรัตต์อย่างปลอดภัย
เมื่อโรงพยาบาลปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วได้แอดมิทส่งตัวเอ๋เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด-ธนบุรี ทำการเอ็กซเรย์อย่างละเอียดสมองไม่มีการกระทบกระเทือน มีเพียงบาดแผลจากกระจกบาดที่ใบหน้าเย็บ 7 เข็ม/คิ้ว 3 เข็ม กระดูกหัวเข่าร้าวต้องเข้าเฝือก2เดือน มีรอย ฟกช้ำตามตัวด้วยแรงกระแทกและนอนพักรักษาตัวที่นี่อีก3-4วัน
โชคดีที่รถมี พรบ//ประกันชั้น1คุ้มครองรถ และดูแลทั้งครอบครัวตลอดการรักษา
ประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า
1.คนขับรถต้องมีสติ /ผู้โดยสารต้องคาดเบลท์
2.รถต้องมี พรบ//ประกันรถ
3.รถที่มีเด็กโดยสาร ต้องติดตั้งคาร์ซีททุกครั้งเพราะมันสามารถช่วยลดการบาดเจ็บหรืออาจช่วยเหลือชีวิตลูกน้อยของคุณได้
4.เวลาที่เจออุบัติเหตุคนขอความช่วยเหลือถ้าเป็นกลางวันควรหยุดรถลงไปช่วยเหลือเท่าที่เราสามารถ
กรณีหากเจอตอนกลางคืน อย่างน้อยช่วยโทรแจ้ง 191 ให้มาช่วยเหลือก่อนก็ยังดีกว่า ปล่อยผ่าน หรือขับรถผ่านไปเฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย เพราะชีวิตที่ติดอยู่ในรถอาจรอความช่วยเหลือจากคุณอยู่
เหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุด ที่ครอบครัวเราเคยประสบพบเจอมา
ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราคงได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับทุกครอบครัวที่ใช้รถและมีลูกน้อยเดินทางร่วมด้วย เพราะความปลอดภัยของคนที่คุณรัก "สำคัญที่สุด"
รักสามีและรักลูกมากๆ
ขอบคุณปาติหารย์ความรักครั้งนี้ที่ทำให้เรารอดชีวิตมาได้
ขอบคุณบุญบารมีพ่อแม่ที่ปกปักรักษาเสมอมา
ขอบคุณพลเมืองดีที่จอดรถช่วยเหลือครอบครัวเรามากๆ ขอให้คุณและครอบครัวพบเจอแต่สิ่งดีๆ
ขอบคุณพี่ชายพี่สะไภ้ ญาติ เพื่อนๆพี่ๆทั้งของเอ๋และของหนุ่มที่คอยช่วยเหลือ เป็นห่วงเป็นใย ทั้งมาเยี่ยม โทรถามตลอด
เราทั้งครอบครัวต้องขอขอบคุณปาติหารย์ความรักในครั้งนี้ และขอขอบคุณความรักความปราถนาดีจากทุกๆคนที่ส่งมาให้ ทำให้รู้ว่ามีคนรักและเป็นห่วงพวกเรามากมายเหลือเกิน
ที่มา: kapook
Tags: