อยากทำเป็นเล่น “ท้องอืด” เกิน 2 สัปดาห์ เสี่ยงเป็นโรคร้ายแรง !
เชื่อได้เลยว่า ท้องอืด เป็นอาการที่หลายๆ คนต้องเคยพบเจอมาอย่างแน่นอน และแม้ว่ามันจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงอะไรมาก แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า ถ้าปล่อยปละละเลย ไม่ดูแล และปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้กลายเป็นโรคร้ายแรงได้เลยทีเดียว
“ท้องอืด” อย่าปล่อยทิ้งไว้
แม้ท้องอืดจะเป็นเพียงอาการ ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ท้องอืดก็อาจเป็นอาการหนึ่งของโรคร้ายแรงได้ เช่น หากเกิดอาการท้องอืดนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ รับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น รวมถึงน้ำหนักลด ซีด เบื่ออาหาร ตัวเหลือง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็ง ดังนั้นถ้าท้องอืดอย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด
อาการท้องอืด คือ ความรู้สึกว่ามีลมในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้ ทำให้อึดอัดไม่สบายตัว อาจมีอาการปวดท้องคลื่นไส้ หรืออยากอาหารน้อยลง ซึ่งโดยปกติแล้วการมีลม หรือแก๊สในกระเพาะอาหารนั้นอาจเกิดจากการกินอาหาร ทั้งลักษณะอาหาร และชนิดของอาหาร การสูบบุหรี่ การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ หรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางกลุ่ม เช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาคลายเครียด ซึ่งมีผลในการกดระบบประสาทและทำให้การบีบตัวของลำไส้ลดลงก็อาจส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน
สำหรับบางรายที่มีอาการท้องอืดมากหรือนาน อาจมาจากโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ กระเพาะเป็นแผล มะเร็งทางเดินอาหารหรือลำไส้ มีการติดเชื้อพวกพยาธิ โรคลำไส้แปรปรวน หรือเป็นการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้เอง รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับระบบอื่นๆ เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องอืดร่วมด้วย ซึ่งต้องมีการตรวจเพิ่มเติม
ท้องอืด-ท้องเฟ้อ ต่างหรือเหมือนกัน
ท้องอืด ท้องเฟ้อเป็นคำรวมๆ ใช้เรียกอาการในกลุ่มลักษณะนี้ คือ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากจนรู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ท้องอาจโตขึ้นหลังจากรับประทานอาหาร บางครั้งมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย หรืออาจมีผายลมมากกว่าปกติ บางครั้งได้เรอหรือผายลมแล้วรู้สึกดีขึ้น
การรักษา
หากมีอาการดังที่กล่าวมา โดยไม่พบสัญญาณเตือน สามารถเลือกรับประทานยาขับลม หรือช่วยย่อย และปรับพฤติกรรมการกิน แต่ถ้าเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์ อาการไม่ดีขึ้นหลังรับประทานยา ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจสืบค้นสาเหตุของอาการโดยละเอียด
การดูแลตัวเองเบื้องต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ย่อยยาก
- ไม่รับประทานอาหารครั้งละมากเกินไป
- เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
-การทำงานแบบนั่งโต๊ะโดยไม่มีการออกกำลังกาย เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องอืดได้บ่อยขึ้น ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายสม่ำเสมอต่อเนื่องให้โ
Tags: