Robert Bigelow ประธานของบริษัท Bigelow Aerospace กล่าวว่า "สถานีอวกาศของเราเป็นส่วนประกอบของแผนการที่ใหญ่กว่า อย่างเช่นภารกิจการส่งมนุษย์ไปเหยียบดาวอังคาร และมันเปิดโอกาสให้ NASA รวมถึงบริษัทด้านการสำรวจอวกาศของอเมริกา สามารถดำเนินกิจการด้านอวกาศได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง"

เพื่อนำสถานีอวกาศ B330 ไปยังวงโคจรรอบดวงจันทร์ Bigelow Aerospace มองหาความช่วยเหลือจาก United Launch Alliance (ULA เป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีจรวด ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Lockheed Martin Space Systems และ Boeing) โดย B330 ตั้งเป้าว่าจะมีการนำส่งโดยจรวดรุ่นใหม่ของ ULA ที่มีชือ่รุ่นว่า Vulcan ที่คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้จริงในปี 2019

โดยแผนการคือ Vulcan จะนำ B330 ไปส่งยังวงโคจรระดับต่ำรอบโลก (Low earth orbit) และมันจะต้องอยู่ที่ระดับวงโคจรนั้นเป็นเวลา 1 ปี เพื่อทดสอบว่ามันสามารถทำงานได้จริงในอวกาศ โดยในช่วงเวลานั้น ทาง Bigelow วางแผนว่าจะมีการส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศ รวมถึงมีการส่งคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปอยู่บนนั้นในทุกช่วงเวลา 3-4 เดือน

หลังจากนั้น ก็ได้เวลาที่จะส่งโมดูล B330 ไปยังดวงจันทร์ โดยทาง ULA จะส่งจรวด Vulcan ขึ้นไปอีก 2 ลำ เพื่อร่วมกันทำหน้าที่นำพาสถานีอวกาศไปส่งยังวงโคจรรอบดวงจันทร์

อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีความชัดเจนว่าในอนาคต NASA มีแผนจะส่งคนกลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกหรือไม่ หรือรัฐบาลอเมริกามีแผนจะสนับสนุนงบประมาณให้กับโครงการในลักษณะนี้ีอีกหรือไม่ และก็อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่า NASA มีแผนที่จะร่วมมือกับหน่วยงานด้านอวกาศของรัสเซีย เพื่อสร้างสถานีอวกาศที่โคจรรอบดวงจันทร์เช่นเดียวกัน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า NASA จะเข้ามาร่วมในโครงการ B330 เพื่อใช้สถานีอวกาศแห่งนี้ เป๋็นฐานที่ช่วยสนับสนุนการสร้างสถานีอวกาศของ NASA กับรัสเซีย

- thaiware.com