มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ในอังกฤษ ต้องเจอความโกรธของมุสลิม และวิกฤติความน่าเชื่อถือครั้งใหญ่ เมื่อยอมให้จัดงานวันบัลโฟร์ ซึ่งจัดโดยพวกยิว

งานแมนเชสเตอร์บัลโฟร์ครบรอบ 100ปี กำหนดจัดขึ้นในปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเฉลิมฉลองวันที่ เซอร์ อาร์เธอร์ เจมส์ บัลโฟร์ (Sir Arthur James Balfour) ออกแถลงการณ์จัดตั้งรัฐยิวขึ้น ในวันที่ 2 พ.ย. ค.ศ.1917

ใจความของคำแถลงการณ์ตอนสำคัญมีความว่า
“รัฐบาลแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพิจารณาด้วยความเห็นชอบ ในการตั้งถิ่นฐานสำหรับพวกยิวขึ้นแห่งหนึ่งในประเทศปาเลสไตน์ และจะใช้ความพยายามจนสุดความสามารถที่จะอำนวยความสะดวกต่อการบรรลุถึงวัตถุประสงค์ข้อนี้ เป็นที่เข้าใจอย่างแจ้งชัดว่า จะไม่มีการปฏิบัติการใด ๆ อันเป็นผลร้ายต่อสิทธิพลเรือนและการนับถือศาสนา ของหมู่ชนที่มิใช่ชาวยิวในประเทศปาเลสไตน์ หรือสิทธิและสถานภาพทางการเมืองที่พวกยิวได้รับในประเทศอื่น”

ซึ่งสำหรับพวกไซออนนิสแล้ว แถลงการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การจัดตั้งรัฐอิสราเอลในปี ค.ศ. 1948

แต่สำหรับชาวปาเลสไตน์ และมุสลิมทั่วโลกนั้น กลับหมายถึงวันที่ อาหรับถูกหักหลัง วันที่ชาวปาเลสไตน์ถูกขับไล่ออกจากบ้านของตนเอง วันแห่งการสูญเสียอธิปไตยในประเทศของตนเอง

“การจัดงานเฉลิมฉลองบัลโฟร์ เป็นการกระทำที่น่าขยะแขยง และไร้มารยาทที่สุด” นักศึกษาชาวปาเลสไตน์ที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์กล่าว

ชาวเน็ตทั่วโลกล้วนประณามการกระทำดังกล่าวว่า “ชาวปาเลสไตน์ยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์นี้ แต่มหาวิทยาลัยก็ยังยอมให้จัดอีก”

มีความคิดเห็นหนึ่งที่ระบายความรู้สึกเศร้า ว่า “ปู่ของฉันเป็นเจ้าของที่ดินในปาเลสไตน์ และมันถูกแย่งชิงไปต่อหน้าต่อตา ทำให้พ่อของฉันต้องเป็นผู้ที่เกิดมาในค่ายผู้ลี้ภัย”

เรียบเรียง - Halalthailand.com