ผู้หญิงที่ดีและมีคุณค่า .... (ในทรรศนะอิสลาม)
ทำอย่างไร ถึงจะเป็น “มุสลิมะฮฺ” ที่สมบูรณ์แบบ
“แท้จริง บรรดาผู้นอบน้อมชายและหญิง บรรดาผู้ศรัทธาชายและหญิง บรรดาผู้ภักดีชายและหญิง บรรดาผู้สัตย์จริงชายและหญิง บรรดาผู้อดทนชายและหญิง บรรดาผู้ถ่อมตัวชายและหญิง บรรดาผู้บริจาคทานชายและหญิงบรรดาผู้ถือศีลอดชายและหญิง บรรดาผู้รักษาอวัยวะเพศของพวกเขาที่เป็นชายและหญิง บรรดาผู้รำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างมากที่เป็นชายและหญิงนั้น อัลลอฮฺได้ทรงเตรียมไว้สำหรับพวกเขาแล้วซึ่งการอภัยโทษและรางวัลอันยิ่งใหญ่ (33:35)
หากท่านเป็นสตรีมุสลิมที่กำลังรู้สึกว่า กำลังละเลยหน้าที่ด้านศาสนา ถึงเวลานี้ ก็คงไม่สายเกินไปที่ท่านจะย้อนกลับมาดูตัวเองอีกครั้ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงอายุ หรือสิ่งที่ท่านเคยทำมาในอดีต
1.ตระหนักเสมอว่า ท้ายที่สุดแล้ว ทุกๆ สิ่งอย่างที่เกิดขึ้น (หรือที่ประสบกับท่าน) จะต้องเป็นไปด้วยดี อัลลออฮฺทรงให้อภัยต่อบาปเล็กๆ ทั้งหลาย ด้วยเพราะว่าพระองค์คือผู้ที่ทรงรู้แจ้ง ทรงเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง และพระองค์เป็นผู้ทรงให้อภัยเสมอ แม้ว่าท่านจะรู้สึกว่าตัวท่านเองนั้นจมอยู่ในบาปจนถอนตัวไม่ได้และไม่สามารถ ที่จะกลับมาเป็นมุสลิมที่ดีได้ก็ตาม แต่แท้จริงแล้ว “มิใช่เช่นนั้น”
2.ค้นหา “สาเหตุ” ที่เป็นตัวล่อลวงท่านให้หันหลังต่อศาสนา โดยการที่ท่านอาจจะลองประเมินจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัว หรือในกลุ่มเพื่อนฝูงซึ่งอาจเป็น “ต้นเหตุ” ที่นำท่านไปสู่หนทางที่ผิด หากเป็นเช่นนั้น ท่านจำต้องเลิกติดต่อกับเพื่อนกลุ่มนั้น เพราะท้ายที่สุด ในวันแห่งการตัดสิน “พวกเขาเหล่านั้น” ย่อมไม่ได้ยืนอยู่เคียงข้างท่าน เมื่อท่านต้องเผชิญหน้าต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา เพียงลำพัง และหากว่า “ต้นเหตุ” นั้นเกิดจาก “ครอบครัวของท่าน” มันก็อาจจะเป็นการยากมากขึ้นสำหรับท่านในการที่จะแก้ไข แต่หากว่าท่านสามารถผ่านพ้น “ปัญหา” นี้ไปได้ แน่นอนว่า ท่านก็จะประสบกับความง่ายดายในภายหลัง
3.หากว่าท่านยืนหยัดและมุ่งมั่นที่จะกลับตัวกลับใจและพยายามที่จะเป็นมุ สลิมะฮฺที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้แล้ว ท่านควรที่จะพิจารณาถึง “การสวมใส่ฮิญาบ หรือ บัรฺกอฺ” ของท่าน “ฮิญาบ” นั้นมิได้เป็นเพียงแ่ค่ “ผ้าผืนหนึ่งที่ปกคลุมเส้นผม” หากแต่เป็น “อาภรณ์” ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงท่านทั้งทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ จงระลึกเสมอว่า “อาภรณ์ผึนนี้” เป็นเครื่องปกป้องคุ้มครองที่อัลลอฮฺทรงประทานไว้ให้แก่บรรดาสตรี ตราบใดที่ท่านนั้นสวมใส่ฮิญาบ อินชาอัลลอฮฺ ทัศนคติเกี่ยวการเคารพนับถือตัวเองและการรู้คุณค่าของตัวเองนั้นจะเปลี่ยนไป ในทางที่ดีขึ้น เรามิได้กล่าวว่า “สตรีที่มิได้สวมใส่ฮิญาบ” จะไม่ได้รับการปกป้องหรือไม่ได้รับความรู้ที่เป็นสัจธรรม หากแต่ว่ามันถือเป็นโอกาสที่ดีกว่าสำหรับท่านในการที่จะรับรู้ถึงความรู้สึก ดังกล่าวจากการสวมใส่ฮิญาบ
4.ทำการละหมาดห้าเวลาทุกวัน ก่อนที่ท่านจะเริ่มทำการละหมาดนั้น ท่านควรจะศึกษาถึงความหมายของคำอ่านในละหมาด ซูเราะฮฺที่จะละหมาด เสียก่อน หากว่าภาษาอาหรับนั้นไม่ใช่ภาษาแม่ของท่าน ก็ลองหาคำแปลของบทละหมาดนั้นๆ และใช้เวลาในการอ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของมัน จากนั้นท่านก็เริ่มทำให้การละหมาดให้เป็นกลายส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ประจำวันของท่าน
5.อ่านอัลกุรอาน เช่นเดียวกัน ท่านสามารถอ่านเป็นคำแปลภาษาไทย หากว่าท่านยังไม่คล่องในภาษาอาหรับ การอ่านอัลกุรอานจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างท่านกับอัลลอฮฺ อีกทั้งยังทำให้ท่านนั้นตระหนักและซาบซึ้งถึงความงดงามแห่งอิสลามอีกด้วย
6.แต่งกายเรียบร้อย ซึ่งมิได้หมายความว่าท่านจะต้องทำให้ตัวท่านดูน่าเกลียดหรือดูล้าสมัย หากเพียงแต่ต้องยึดถือ “ความเรียบร้อย” เป็นหลัก ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติทั้งหลายของท่านเกี่ยวกับสิ่งที่ได้รับ การอนุมัติและสิ่งที่ไม่ได้รับการอนุมัติ (หะลาล และหะรอม)
7.พบปะสมาคมกับเพื่อนที่ดี ด้วยการหาหัวข้อในการสนทนา เพราะท่านอาจต้องการหาเพื่อนสักคนที่ท่านสามารถแบ่งปันความคิด ทัศนคติเกี่ยวกับ “การเป็นมุสลิมะฮฺที่ดี”
8.หลีกเลี่ยงแรงจูงใจด้านลบ รวมไปถึงการคบกับเพื่อนเก่า (มันอาจจะยากสักหน่อย หากแต่ว่ารางวัลตอบแทนที่จะได้รับนั้นมันคุ้มค่ามากกว่า) เพื่อนเก่าที่ว่านี้ คือบรรดาผู้ที่มีอิทธิพลไปในทางที่เลวร้ายต่อตัวท่าน หรือเป็นผู้ที่มักชักจูงท่านให้แสดงพฤติกรรมด้านลบออกมา เราทุกคนต่างมีชัยฎอน (ความชั่ว) อยู่ในตัวเรา หากแต่ ในฐานะ “มุสลิม” มันถือเป็น “ความรับผิดชอบ” ของเราที่จะต้องต่อสู้กับสิ่งล่อลวงใจเหล่านั้นและพยายามหาวิถีทางในการ เพิ่มพูนความศรัทธาและความเชื่อให้มากขึ้น
9.ให้อภัยตัวเองต่อความผิดต่างๆ ที่ผ่านมา ท่านจำต้องปล่อยวางกับความผิดพลาดที่ผ่านมาในอดีตและปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่มี อยู่ให้ดียิ่งขึ้นเพื่ออนาคต — สิ่งใดๆ ก็ตามที่เคยเกิดขึ้นมันได้ผ่านไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นถือเป็นอดีตและไม่มีอะไรที่ท่านจะสามารถเปลี่ยนแปลง หรือ ทำให้มันดีกว่าที่เคยเป็นได้ สิ่งเดียวที่ท่านสามารถทำได้คือการให้อภัยตัวเองและใช้ประสบการณ์ด้านลบ เหล่านั้นเป็นตัวผลักดันให้ท่านนั้นทำตัวให้ดียิ่งขึ้น
10.พิจารณาว่า “จุดอ่อน” ของท่านนั้นคืออะไร และพยายามหลีกเลี่ยงมัน ยกตัวอย่างเช่น หากท่านเป็นผู้ที่เคยยุ่งเกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์ที่ผิดประเวณีก่อนการ แต่งงาน ท่านจำต้องหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมพันธ์กับบุรุษเพศ ซึ่งมิได้หมายความว่าท่านจะต้องวิ่งหนีทุกๆ ครั้งที่มีผู้ชายเข้ามาใกล้ท่าน หากแต่ว่าท่านจำต้องคบหาเพื่อนที่เป็นสตรีเพศและหลีกเลี่ยงการคบหาเพื่อน ผู้ชายที่ขาดซึ่งศีลธรรมและไม่ให้เกียรติสตรี เพราะแท้จริงแล้ว พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ผู้ที่มีความสำคัญต่อชีวิตของท่าน
11.ยึดมั่นต่อ “ความปรารถนาที่จะเป็นมุสลิมะฮฺที่ดี” ให้เป็นหลักเกณฑ์ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน หากท่านทำให้ “สิ่งนี้” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในหัวใจของท่านว่า ท่านต้องการที่จะเป็นมุสลิมะฮฺที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ท้ายที่สุดแล้วท่านก็จะบรรลุผลสำเร็จดังกล่าวได้โดยไม่ต้องคอยนึกถึงมัน และทุกๆ ครั้งที่ท่านจะทำสิ่งใดก็ตาม ท่านจะตระหนักได้เองว่า “สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ศาสนาอนุมัติ” “ถ้าศาสนาไม่อนุมัติ ก็อย่าทำเลยดีกว่า”
12.เมื่อใดก็ตามที่ท่านรู้สึกอ่อนแอ ท้อแท้ และไม่มีใครสักคนที่จะพูดคุยด้วย ขอให้ท่านตระหนักอยู่เสมอว่า อัลลอฮฺทรงอยู่กับท่านและ “อัลลอฮฺ” เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นเป้าหมายของภาระกิจต่างๆ ในชีวิตของเราในโลกดุนยานี้
13.ระลึกเสมอว่า “การที่จะได้มาซึ่งการอภัยโทษจากอัลลอฮฺนั้น มีอยู่สี่ประการ” คือ
1) สำนึกในความผิดและสารภาพผิดต่อหน้าอัลลอฮฺ
2) เสียใจต่อความผิดที่ท่านได้กระทำ
3) ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่กระทำความผิดซ้ำอีก
4) ขออภัยโทษจากอัลลอฮฺ
แปล เรียบเรียง بنت الاٍسلام
ขอบคุณ : dek-d.com
Tags: