UPDATE ก่อน! “ปุ่มโฮม”ไม่ได้ไปต่อบน “ไอโฟน X” ไร้ขอบ เปิดตัววันนี้ 12 ก.ย.
ก่อนการเปิดตัวหลายเดือน นักวิเคราะห์ฟันธงว่า แอปเปิลจะฉลองวาระครบรอบ 10 ขวบ หลังจาก iPhone รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปี 2007 ด้วยการโชว์นวัตกรรมสุดยอดในราคาเกินกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกิน 33,000 บาท ทุกคนมั่นใจว่า iPhone X จะเป็นแรงดันระดับซูเปอร์ ที่จะส่งให้แอปเปิลรับทรัพย์เป็นพลุแตกอีกครั้ง
ความยิ่งใหญ่นี้ แม้จะดูเหมือนเป็นแรงกดดัน แต่ก็เป็นแรงกดดันที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมไอทีโลกขับเคลื่อนไป รวมถึงดันให้เราชาวไอทีเสียทรัพย์ถ้วนหน้า
แอปเปิล (Apple) นับถอยหลังเปิดตัวไอโฟน (iPhone) รุ่นใหม่อย่างน้อย 3 รุ่น วันที่ 12 กันยายนนี้ ที่สำนักงานแห่งใหม่ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลายคนรู้แล้วว่า 2 ใน 3 รุ่นจะเป็น iPhone 8 และ 8 Plus แต่ดาวเด่นที่คาดว่าจะมีราคาไม่ธรรมดามากที่สุด คือ iPhone X
รุ่นดีไซน์ใหม่ อีก 2 เป็นอัปเดตสเปก
จากที่เคยเป็นมา ไอโฟน 3 รุ่นใหม่ที่แอปเปิลจะเปิดตัว เชื่อว่าประกอบด้วย 1 รุ่นที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ อีก 2 รุ่นเป็นการอัปเดตคุณสมบัติเพิ่มเติม 2 รุ่นหลังนี้เองที่จะเป็นไอโฟนรุ่นที่เรียกกันไม่เป็นทางการว่า iPhone 8 และ 8 Plus เพื่อมาแทน iPhone 7 และ 7 Plus
แต่รุ่นใหญ่ที่จะเป็นเรือธงสุดพิเศษ รายงานเผยว่า แทนที่จะใช้ชื่ออย่าง “iPhone Pro” หรือชื่อที่สะท้อนความพิเศษกว่า ไอโฟนรุ่นนี้คาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone X” ซึ่งมีโอกาสจัดเต็มทั้งหน้าจอโค้ง ขอบเครื่องที่บางกว่า iPhone 7 หน้าจอเทคโนโลยีใหม่ OLED ซึ่งประหยัดพลังงาน และให้สีดำที่ดำกว่า สีแดงที่แดงกว่า
ประเด็นขอบเครื่องที่บางกว่าของ iPhone X นั้น เชื่อว่าเป็นข่าวที่มีน้ำหนัก เนื่องจากข้อมูลหลุดจากซอฟต์แวร์ของแอปเปิลเอง ทำให้นักพัฒนาเชื่อว่า ขนาดหน้าจอใน iPhone X นั้น ไม่ธรรมดา 1125 x 2436 พิกเซล (ผลการวิเคราะห์ของ Ming-Chi Kuo จากบริษัท KGI Securities)
แม้ว่าพื้นที่แสดงผลจะใหญ่ขึ้น แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ขนาดเครื่องจะเท่าเดิม
ลาก่อนปุ่มโฮม
กล้องหลังของ iPhone X คาดว่าจะมีเลนส์คู่ 2 ตัวจัดวางแนวตั้ง ด้านหน้าเครื่องจะลบปุ่มโฮมทิ้งเพื่อให้เกิดเป็นดีไซน์ที่แตกต่าง โดยจะพัฒนาเป็นพื้นที่ “function” บนหน้าจอเพื่อใช้แทน
ยังไม่ชัดเจนว่า เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือจะยังถูกฝังบนหน้าจอ หรือแอปเปิลตัดสินใจใช้ระบบ Face ID แทนแบบเบ็ดเสร็จ แต่ที่แน่นอน คือ iPhone รุ่นต่อไปจะใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 11 ใหม่ล่าสุดที่แอปเปิลออกแบบมาเพื่อ iPhone และ iPad
จุดนี้รายงานชี้ว่า iOS 11 จะมีพัฒนาการใหม่โดยเฉพาะส่วนควบคุม control center ที่จะออกแบบใหม่ มีเครื่องมือใหม่สำหรับถ่ายภาพหน้าจอ และพัฒนาการยิ่งใหญ่ของระบบผู้ช่วยเสียงส่วนตัวสิริ (Siri)
ที่สำคัญ iPhone X จะมีคุณสมบัติสำคัญเทคโนโลยี AR (augmented-reality) ที่จะทำให้กล้องเปลี่ยนภาพเป็นภาพเสมือนจริง โดยที่ผ่านมา แอปเปิลลงมือเพิ่มคุณสมบัติ AR ลงในแอปพลิเคชันชื่อ Clips ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแต่งภาพแสนสนุกที่แอปเปิลเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติใหม่ชื่อ “แอนิโมจิส์” (Animojis) อีโมจิ 3 มิติ ที่แอปเปิลอธิบายว่าเป็นข้อความภาพเคลื่อนไหวที่ปรับแต่งได้ ซึ่งจะแสดงตามเสียง และสะท้อนสีหน้า ของผู้ใช้อย่างแม่นยำ
ด้านการชาร์จ ข่าวลือระบุว่า เราไม่จำเป็นต้องเสียบสายชาร์จ iPhone อีกต่อไป เพราะ Apple เพิ่มระบบชาร์จไร้สายให้ iPhone รุ่นใหม่เพื่อจำหน่ายในปลายปีนี้ จุดนี้บางกระแสระบุว่า แอปเปิลอาจจำหน่ายที่ชาร์จไร้สายสไตล์นาฬิกา Apple Watch แบบแยกต่างหาก แต่บางกระแสก็แย้ง เนื่องจากแอปเปิลนั้น เป็นสมาชิกองค์กร Wireless Power Consortium แสดงว่า เจ้าพ่อไอทีอเมริกันจริงจังกับการพัฒนาเทคโนโลยีชาร์จไร้สายมาก ทำให้อาจต้องการผลักดันให้เทคโนโลยีชาร์จไร้สายถูกใช้แพร่หลาย
นอกจากราคาที่คาดว่าจะเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ไอโฟนใหม่ยังถูกตราหน้าว่าอาจวางจำหน่ายล่าช้า คาดว่า ผู้ใช้อาจต้องรอจนกว่าจะถึงตุลาคมนี้ หรือช้ากว่านั้น จุดนี้บางกระแสเชื่อว่า iPhone X อาจจะมาเฉพาะสีดำ แต่บริษัท KGI Securities ไม่เห็นด้วย และเชื่อว่า แอปเปิลจะปูพรม 3 สีทั้งเงิน, ดำ, และทอง
และที่ขาดไม่ได้ คือ iPhone X จะไร้เงาช่องต่อเฮดโฟน (headphone jack)
Tags: