วัคซีน H1 N1 เมียนมาร์ขาดแคลน ชาวย่างกุ้ง ต้องเดินทางมาใช้ บริการโรงพยาบาลเอกชนในไทย ล่าสุด ตายแล้ว 15 ราย พบเชื้อมากกว่า 100 ราย นักธุรกิจชี้ไม่กระทบการค้าชายแดน ...

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลแม่สอดอินเตอร์เนชั่นแนล ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่ามีชาวเมียนมาร์ จากเมืองย่างกุ้ง รวมไปถึงจากจังหวัดเมียวดี และพื้นที่ต่างหวัดของเมียนมาร์ ในรัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญ เป็นจำนวนมากเดินทางมารับการฉี ดวัคซีน ป้องกันเชื้อไข้หวัด H1 N1 อย่างต่อเนื่อง

หลังจากเกิดไข้หวัดใหญ่เอช. 1 เอ็น 1 ระบาดในเมืองย่างกุ้งประเทศเมียนมา ซึ่งทำให้ชาวเมียนมาร์ตื่นตัวเกรงกลัวว่าจะติดเชื้อ จึงเดินทางมาฉีดวัคซีนป้องกันให้กับตนเองและครอบครัว โดยผู้ที่จะได้รับวัคซีนจะต้องจองคิวและลงทะเบียนรับวัคซีนล่วงหน้า ทำให้ชาวเมียนมาร์ที่เดินทางมาจากเมืองยางกุ้งนับร้อยคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนต่างเดินทางกลับด้วยความผิดหวัง

ในขณะที่ด้านกรรมการหอการค้าจังหวัดตาก ระบุว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดเอช 1 เอ็น 1 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนการซื้อขายสินค้ายังเป็นปกติ อย่างไรก็ดีทางการเมียนมาร์ ยังไม่สามารถควบคุมโรคได้ ยังคงมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และพบเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดพบผู้ป่วยปอดอักเสบกว่า 300 ราย เสียชีวิต 15 ราย พบเชื้อมากกว่า 100 รายแล้ว

ด้านสาธารณสุขไทยในพื้นที่ อำเภอแม่สอด ชี้แจงผ่านสื่อว่า ไข้หวัดใหญ่ช่วงนี้เป็นการเกิดโรคตามฤดูกาล พร้อมขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเองและใช้มาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ทุกสายพันธุ์จากรายงานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเผยประเทศไทยมี มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อชายแดนอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานสากล ทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ เน้นเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้ าออกระหว่างประเทศในทุกช่องทาง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค

นายแพทย์ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 พิษณุโลก กล่าวว่า จากที่มีรายงานข่าวในประเทศเพื่อนบ้านของไทยมี การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่ างใกล้ชิด โดยพบว่าโรคไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาลอยู่แล้ว และไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกันกั บในวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่กระทรวงสาธารณสุขจัดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง

ในการนี้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศอำเภอแม่สอด ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ระหว่างชายแดนอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก ได้ดำเนินการคัดกรองผู้เดินทางทุกวัน พร้อมให้บริการแจกหน้ากากอนามัย และเมื่อพบผู้มีอาการไข้ มีน้ำมูก ก็จะดำเนินการเก็บรายละเอียดข้อมูลเบื้องต้นและส่งผู้มี อาการดังกล่าว ไปยังสถานบริการที่รับการรักษาในเขตอำเภอแม่สอดเพื่อรับการรักษาต่อไป