เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของพม่า บุกค้นหมู่บ้านชาวโรฮิงญา ซึ่งต้องสงสัยว่า เป็นที่ซ่อนของกองกำลังติดอาวุธ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 คน ด้วยข้อหาสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธ ขณะที่ชาวบ้านได้รวมตัวกันเพื่อขัดขวางเจ้าหน้าที่ ...

กลายเป็นเรื่องร้อนระอุไปทั่วประเทศพม่าอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานบรรยากาศในรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของพม่า ที่หวนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ชาวพุทธ 6 ศพ ในเมืองหม่องดอว์ จนเป็นที่หวาดผวาว่าอาจจะเกิดการล้างแค้นและกวาดล้างชาวมุสลิมในรัฐแห่งนี้อีกครั้ง โดยรายงานว่า

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเริ่มเข้าไปในหมู่บ้านต้องสงสัยว่าเป็นที่ซ่อนของกองกำลังติดอาวุธ และยิงปืนเตือน พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 คน ด้วยข้อกล่าวหาว่าสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนวิตกกังวลว่าข้อพิพาทระหว่างชาวมุสลิมโรฮิงยาและชาวพุทธในรัฐยะไข่จะหวนปะทุและบานปลายอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มพระสงฆ์และกลุ่มชาตินิยมชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ปล่อยให้เกิดเหตุร้ายต่อชาวพุทธขึ้น

การบุกเข้าหมู่บ้านเอาต์นันยาร์ของชาวโรฮิงยาเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยนี้ มีการใช้กำลังทหารกว่า 20 นาย ปิดล้อมหมู่บ้าน พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 คน ขณะเผชิญหน้าม็อบนับร้อยคนของหมู่บ้าน ถือมีด หนังสติ๊ก ทำให้ทหารยิงปืนเตือนปรามม็อบไป 40-50 นัด สำหรับเหตุการณ์ต้นตอดังกล่าว นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และรมว.กระทรวงการต่างประเทศของพม่า แถลงว่า กลุ่มคนร้ายบุกโจมตีชาวนาชนเผ่าเมียว ชนกลุ่มน้อยชาวพุทธ ในหมู่บ้านคายยี จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และอีก 2 คนยังคงสูญหาย

หมู่บ้านคายยีเคยถูกโจมตีอย่างหนักในช่วงวิกฤตการปะทะของสองศาสนาเมื่อปี 2555 เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ราย และชาวมุสลิมโรฮิงยาราว 140,000 คนต้องอพยพหนีตายกระทั่งเมื่อเดือนต.ค.2559 เกิดเหตุตำรวจ 9 นาย ถูกสังหารอีก ทำให้ทหารเปิดปฏิบัติการ 4 เดือนกวาดล้างผู้ต้องสงสัยในรัฐยะไข่ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 106 ราย แต่ฝ่ายโรฮิงยาระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตว่าอาจถึง 400 ราย