จากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในจังหวัดสกลนครและในหลายพื้นที่ในภาคอีสานนั้น นอกจากสร้างความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนแล้วยังรวมถึงบ้านเรือนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆด้วย โดยเฉพาะ รถยนต์ จำนวนหลายสิบคันที่จมอยู่ใต้บาดาล หากน้ำลดลงแล้วต้องทำอย่างไรกับรถที่จมน้ำ

1.อย่าสตาร์ทเครื่องใดๆแม้ว่าน้ำจะลดลงจากห้องเครื่องแล้ว เพราะอาจมีน้ำตกค้างจากภายในวาล์วต่างๆของเครื่องยนต์

2.ไม่ควรพ่วงต่อกระแสไฟ เข้าแบตเตอรี่ เพราะน้ำที่ค้างอยู่ในรถจะส่งผลให้ระบบไฟฟ้าของรถยนต์ลัดวงจรทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิมได้ ก่อนที่น้ำจะท่วมรถถ้าเป็นไปได้อยากให้ถอดสายแบตเตอรี่รถยนต์ออกให้หมด ยกแบตเตอรี่หนีน้ำได้ยิ่งดีเพื่อป้องกันน้ำที่ท่วมทำให้ประจุไฟในเบตเตอรี่รั่วออกจนหมด แล้วถ้าเราต้องการเคลื่อนย้ายรถก็ให้ใช้รถลากจูง

3.ใช้รถยกไปศูนย์หรืออู่เพื่อตรวจเช็คสภาพรถ ซึ่งต้องตรวจเช็คทั้งระบบเ พราะสิ่งที่ต้องตรวจสอบนั้นมีทั้ง ระบบเครื่อง เกียร์ เพลา สตาร์ทเตอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้าต่างๆ เป็นต้น

4. ปกติค่าซ่อมแซมรถยนต์ที่ถูกจมน้ำอยู่ในหลักแสนบาทขึ้นไป เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆนั้นเสียเกือบทุกอย่าง บางกรณีจำเป็นต้องผ่าเครื่องดูน้ำขัง และมีความเสี่ยงต่อสภาพที่อาจไม่เหมือนเดิม 100% สำหรับคนที่ทำประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2+นั้น สามารถเคลมเงินประกันตามวงเงินประกันได้ ส่วนประกันชั้น 2และ 3นั้น ต้องดูเงื่อนไขที่ระบุอีกครั้ง

เครดิต: จงจิตร์ อุทิศานนท์
ที่มา: https://www.tnews.co.th/contents/342427