ไขปัญหา Mister Donut ฮาลาล หรือไม่ ?
Mister Donut ที่โคลิเซี่ยมยะลามุสลิมกิน กันเยอะมากเหมือนกับมั่นใจแ ล้วว่า เป็นสิ่งที่ฮาลาล จนทำให้คนที่ยืนหยัดไม่กินบ างทีก็สับสน
ไม่แปลกใจหรอก ใจเราถึงมืด ไม่อยากเรียนศาสนา ไม่อยากฟังศาสนา เรียนแล้วเข้าใจยาก
เพราะคิดว่ามัน คือ แป้ง ไม่เป็นไรไม่มีหมูหรอก คิดหน่อยก่อนจะกินนะ อย่ากินตามความรู้สึกเรานะ เพราะ ฮูกุมพระเจ้า ไม่ใข่ฮูกุมเราที่จะทำอะไรก ็ได้
เมื่อมีมุสลิมที่ใช้ชื่อว่า xyz (นามสมมุติ) ได้โพสถามไปยัง Mister Donut (Thailand) ดังข้อความว่า :
“ดิฉันเป็นมุสลิม เคยสมัครเป็นสมาชิกของ Mister Donut แต่ปัจจุบันไม่กล้ารับประทาน เพราะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากในสังคมมุสลิมว่า Mister Donut ไม่มีเครื่องหมายฮาลาล อาจจะมีส่วนผสมที่มุสลิมรับประทานไม่ได้ ปนเปื่อนอยู่ด้วย จึงอยากเรียนถามว่า “ทำไม Mister Donut จึงไม่ขออนุญาตใช้เครื่องหมายฮาลาล”
โดยสรุปได้ว่า Mister Donut (Thailand) ได้ออกมาเผยว่า ต้องขออภัยด้วย สำหรับสินค้าของมิสเตอร์ โดนัท บางชนิดนั้นมีไขมันบางประเภทที่เป็นไขมันสัตว์ จึงไม่สามารถขอการรับรองฮาลาลได้
ซึ่งนั้นหมายถึงสินค้าภายในตู้หรือในร้านก็จะผสมปนเป ไปด้วย สินค้าปกติ และสินค้าที่มีส่วนผสมต้องห้ามสำหรับมุสลิม
เปรียบเทียบได้ว่า ในร้านอาหารร้านหนึ่ง มีทั้งแกงปลา และแกงหมูวางในตู้เดียวกัน และคนปรุง พร้อมเครื่องครัว ก็เป็นชุดเดียวกัน
ดังนั้นจึงอยากให้มุสลิมพึงระวังให้ดีในการเลือกรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีความคลุมเครือ/สงสัย มุสลิมจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทดังกล่าวนี้ นอกจากนั้นแล้ว
อะไรบ้างที่เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม ?
1) เนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่ทำมาจากตัวหมู เช่น เยลละตินหากทำมาจากหมู มุสลิมก็ถือว่าเป็นที่ฮะรอม (ต้องห้าม) แต่ยิวจะถือว่าเป็นโคเชอร์(กินได้)
2) เลือด ไม่ว่าจะนำไปต้มหรือไปทำพาสเจอร์ไรส์หรือไปทำเป็นผลิตภัณฑ์อะไรก็แล้วแต่ถือเป็นที่ต้องห้ามตามหลักการอิสลาม
3) เนื้อของสัตว์ที่ตายเองโดยธรรมชาติหรือตายโดยไม่รู้สาเหตุ
4) เนื้อของสัตว์ที่ตกจากที่สูงตาย ถูกทุบ และถูกรัดคอ
5) เนื้อของสัตว์ที่เชือดโดยไม่กล่าวนามของพระเจ้า เหตุผลก็เพราะสัตว์มีชีวิตและชีวิของสัตว์ก็เป็นของพระเจ้า ถ้าจะกินเนื้อของมันก็ต้องขออนุญาตจากพระเจ้าเพื่อเอาชีวิตของมันเสียก่อน หากไม่กล่าวนามพระเจ้าก็แสดงว่าไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของชีวิตสัตว์และขโมยทรัพย์สินของพระองค์ นอกจากนั้นแล้วคนที่จะกล่าวนามพระเจ้าในตอนเชือดสัตว์นั้นก็ต้องเป็นมุสลิมผู้ศรัทธาในพระองค์ด้วย มิเช่นนั้นแล้ว เนื้อของสัตว์นั้นก็เป็นที่ต้องห้าม ชาวยิวสมัยก่อนก็เชือดสัตว์โดยกล่าวนามพระเจ้าด้วยเช่นกัน แต่ในปัจจุบันนี้ชาวยิวไม่เคร่งครัดในเรื่องนี้แล้ว เนื้อของสัตว์ที่ชาวยิวเชือดซึ่งมุสลิมเคยได้รับการอนุมัติให้กินได้ในสมัยอิสลามยุคต้นจึงไม่เป็นที่ปลอดภัยสำหรับมุสลิมในปัจจุบัน แต่ชาวยิวจะสามารถกินเนื้อที่มุสลิมเชือดได้อย่างปลอดภัย
6) อาหารใดๆก็ตามที่นำไปเซ่นสรวงผีสางเทวดาหรือนำไปถวายเจ้าอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากคนมุสลิมศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว อาหารใดก็ตามที่นำไปถวายเจ้าอื่นแล้วถือว่าเป็นอาหารเหลือเดนที่อิสลามห้ามมุสลิมนำมากินหรือนำมาใช้
7) สัตว์ที่ใช้กรงเล็บและเขี้ยวจับหรือฉีกเหยื่อกินเป็นอาหาร เช่น นกอินทรี งู เสือ หมี และอื่นๆ เนื้อของสัตว์เหล่านี้ไม่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ และการล่าสัตว์เหล่านี้มาเป็นอาหารก็เป็นการทำลายดุลย์ทางนิเวศวิทยาด้วย
8) สิ่งมึนเมาทุกประเภท โดยเฉพาะสุรานั้น อิสลามถือว่าเป็น “แม่ของความชั่ว” ที่จะออกลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ส่วนยิวถือว่าเหล้าองุ่นทุกอย่างเป็น “โคเชอร์”
Cr.Nisagareeya
ที่มา: เรียบเรียงโดย www.halalthailand.com
Tags: