หนุ่มอเมริกันช่วยวัยรุ่นมุสลิมถูกคุกคามจนตัวตาย
ผู้คนทั่วสหรัฐฯ ต่างแสดงความเสียใจและกล่าวชื่นชมยกย่องชายพลเมืองดีสองคน ซึ่งถูกทำร้ายจนเสียชีวิต หลังพยายามเข้าช่วยเหลือเด็กสาววัยรุ่นสองคนที่ถูกคนร้ายข่มขู่คุกคามบนรถไฟ ที่เมืองพอร์ตแลนด์ของรัฐออริกอน โดยหนึ่งในเด็กสาวสองคนถูกคนร้ายหมายตาเพราะสวมผ้าคลุมศีรษะของมุสลิม
เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 พ.ค. บนขบวนรถไฟโดยสารที่เข้าจอดเทียบสถานีฮอลลีวูดทรานซิต (Hollywood Transit) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า คนร้ายซึ่งเป็นชายผิวขาวได้ตรงเข้าไปตะโกนด่าทอและแสดงท่าทีข่มขู่คุกคามเด็กสาวสองคน ซึ่งคนหนึ่งเป็นเด็กสาวผิวสีและอีกคนหนึ่งเป็นมุสลิม โดยคนร้ายใช้ถ้อยคำแสดงความเกลียดชังและเหยียดเชื้อชาติศาสนา ซึ่งต่อมาแม่ของเด็กสาวหนึ่งในสองคนเผยว่า คนร้ายกล่าวสาปแช่งให้ชาวมุสลิมตายไปเสียให้หมด เพราะได้เข่นฆ่าชาวคริสต์มานานมากแล้ว
ชายพลเมืองดีสามคนได้พยายามเข้าช่วยเหลือเด็กสาวทั้งสอง แต่คนร้ายกลับหันมาด่าทอชายทั้งสาม และใช้มีดกระหน่ำแทงพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองคนและได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งคน ขณะที่เด็กสาวทั้งสองซึ่งกำลังตื่นกลัวได้วิ่งหนีออกจากขบวนรถไฟไป คนร้ายถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวในทันทีหลังลงจากรถไฟ
พลเมืองดีที่เสียชีวิตสองรายคือนายริคกี จอห์น เบสต์ วัย 53 ปี ซึ่งเคยเป็นทหารในกองทัพสหรัฐฯ มานานถึง 23 ปี และนายทาลีซิน มริดดิน นัมไก-เมเช บัณฑิตหนุ่มซึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษาในสาขาเศรษฐศาสตร์ โดยขณะที่เกิดเหตุ นายนัมไก-เมเช ได้โทรศัพท์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับป้าของเขาฟัง ซึ่งป้าก็ได้บอกให้เขาถ่ายคลิปเหตุการณ์นั้นไว้
"ฉันไม่ได้อยากให้เขาทำตัวเป็นวีรบุรุษและต้องมาตายเสียอย่างนี้ แต่เขาก็ตั้งใจพยายามเข้าปกป้องเด็กสาวสองคนนั้นจริงๆ" ป้าของนายนัมไก-เมเช กล่าว
มารดาของนายนัมไก-เมเช ลงข้อความไว้อาลัยทางหน้าเฟซบุ๊กว่า "เขาคือวีรบุรุษและจะยังเป็นวีรบุรุษต่อไปในโลกหน้า แม่รักลูกเสมอนะ เจ้าดวงดาวที่ฉายแสงเจิดจ้า"
ส่วนคนร้ายผู้ก่อเหตุคือนายเจเรมี โจเซฟ คริสเตียน วัย 35 ปี มีประวัติเป็นสมาชิกกลุ่มผู้เหยียดเชื้อชาติศาสนา และมีแนวคิดรุนแรงสุดโต่งซึ่งสนับสนุนให้คนผิวขาวเป็นใหญ่ เขาเคยเข้าร่วมการเดินขบวนแสดงพลังของกลุ่มขวาจัด และได้ทำท่าแสดงความเคารพแบบนาซีในงานดังกล่าวด้วย ขณะนี้เขาถูกตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวมทั้งข้อหาพยายามฆ่า ข่มขู่ และพกพาอาวุธต้องห้าม
สภาส่งเสริมความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงต่อต้านแนวโน้มความเกลียดกลัวอิสลามที่กำลังเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ เนื่องจากตัวประธานาธิบดีทรัมป์เองมีส่วนแผ่ขยายแนวโน้มดังกล่าวให้มีความรุนแรงขึ้น ด้วยการใช้คำพูดและนโยบายต่อต้านอิสลามในด้านต่าง ๆ
Tags: