ฟังดูคุ้นๆไหม? ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับ Forces TV ซึ่งเป็นช่องของกองทัพอังกฤษ เจ้าชายแฮร์รี่ได้ทรงเปิดใจถึงประสบการณ์การเป็นโรคแพนิคหรือโรคตื่นตระหนกรวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีรับมือกับปัญหาสุขภาพจิตดังกล่าวด้วย

เจ้าชายแฮร์รี่กล่าวว่า “ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนซึ่งก็มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ข้าพเจ้าจะมีเหงื่อออกและหัวใจเต้นเร็ว..ตึกตักๆๆ..ดังอย่างกับเครื่องซักผ้าเลยล่ะ” นอกจากนี้เจ้าชายแฮร์รี่ยังกล่าวว่าปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียด “สู้หรือหนี” จะเริ่มทำงาน ทว่าปฏิกิริยาของพระองค์แสดงออกแค่ “โอ้แย่แล้ว..เอาฉันออกไปจากที่นี่ที เอ๊ะ..แต่ฉันออกจากที่นี่ไม่ได้ งั้นฉันต้องรีบไปซ่อนก่อน”

คำอธิบายของเจ้าชายแฮร์รี่จะเป็นกำลังใจให้แก่ชาวอเมริกานับล้านคนที่ป่วยเป็นโรควิตกกังวลและโรคแพนิค โรคเหล่านี้ทำให้ผู้คนอ่อนเพลียและมักเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า อาการตื่นตระหนกจะทำให้ระดับความเครียดของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นฉับพลัน อีกทั้งทำให้หายใจติดขัด รู้สึกกลัวขั้นรุนแรง หัวใจเต้นเร็วขึ้น คลื่นไส้อาเจียน และอื่นๆอีกมากมาย

เจ้าชายแฮร์รี่กับดยุกและดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ได้ร่วมกันก่อตั้งโครงการ Heads Together ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยทางจิต เจ้าชายแฮร์รี่ทรงใส่ใจสุขภาพจิตของทหารผ่านศึกและกองทัพเป็นพิเศษและมักจะพูดถึงเรื่องโรค PTSD หรือโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรงซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ราว 8 ล้านคน

ในช่วงต้นปีเจ้าชายแฮร์รี่ยังกล่าวถึงความโศกเศร้าหลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่าผู้เป็นพระมารดาว่าได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของพระองค์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง พระองค์ทรงยอมรับว่าได้เข้าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตขณะมีพระชนมายุ 28 พรรษาหลังจากที่ผ่าน “ช่วงเวลาอันแสนวุ่นวาย” มานานหลายปี

ผู้เชี่ยวชาญต่างพากันสนับสนุนการแก้ปัญหาแบบนี้และการปรึกษานักบำบัดก็สามารถจัดระเบียบสมองในทางบวกได้ ในการสัมภาษณ์กับ Forces TV เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเน้นย้ำถึงปัญหาสุขภาพจิตและสนับสนุนให้ผู้ที่กำลังต่อสู้กับโรคเหล่านี้อยู่มองหาแนวทางการช่วยเหลือ เจ้าชายแฮร์รี่กล่าวว่า “แทนที่จะใช้ความสามารถของตัวเองแค่ 50% ..จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถใช้ทักษะที่ตัวเองมีอยู่ได้อย่างเต็มร้อย”

ขอบคุณที่มา:https://issue247.com/people/prince-harry-perfectly-explains-what-panic-attacks-feel-like/
Source : huffingtonpost.com, thedailybeast.com