
การแสวงหาริสกีที่ฮะรอม
การแสวงหาริสกีที่ฮะรอม
อะไรคือ สิ่งที่ผลักดันให้มนุษย์มุ่งไปสู่การแสวงหาริสกีที่ฮะรอม ถ้าไม่ใช่ความกลัว เช่น กลัวความยากจน กลัวความไม่มั่นคงในชีวิตตัวเองและครอบครัว แน่นอน ความกลัวจะนำพาไปสู่ แนวทางของมารร้ายชัยฏอน ที่มันสามารถครอบงำจิตใจมนุษย์ให้เกิดความโลภ หรือไม่รู้จักพอ
ถ้าอยากรวย ก็ต้องดูด้วยว่ารวยมาด้วย วิธีใด ถ้ารวยด้วยการทำมาหากินสุจริต ด้วยความอดทน รู้จักกิน รู้จักใช้ รู้จักอดออมเก็บไว้เป็นทุนขยายกิจการก็ย่อมถูกต้อง แต่ถ้าอยากรวยด้วยการฝ่าฝืนพระบัญญัติของอัลลอฮฺ ตะอาลา จากการริสกีที่ฮะรอม ด้วยการนำเงินไปฝากธนาคาร แล้วรอกินดอกเบี้ย ซื้อหวยออนไลน์เพื่อหวังรางวัลที่หนึ่ง ค้ายาเสพติด ตลอดจนการลักขโมย ปล้นจี้ แย่งชิงทรัพย์สินด้วยวิธีประทุษร้าย หลอกลวง คดโกง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นความชั่ว ที่ต้องสำนึกตัวต่อพระองค์ และพระองค์ทรงทำให้เห็นภาพแห่งความกลัว ความยากจนของชาวมักกะฮฺ
ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงกล่าวว่า :
“ศรัทธาชนทั้งหลาย แท้จริงพวกมุชริกีน (ผู้ตั้งภาคี) เป็นพวกที่มีความสกปรกทางใจ ดังนั้น อย่าให้ พวกเขาเข้าใกล้มัสยิดฮะรอม นับแต่ปีนี้เป็นต้นไป ถ้าสูเจ้ากลัวจน อันเนื่องจาก การห้ามกาเฟรเข้ามัสยิดหะรอม ละก็อีกหน่อย อัลลอฮฺจะประทานพระกรุณา อันเหลือล้นของพระองค์ มาให้เจ้า เพราะอัลลอฮฺทรงรู้ ทรงปรีชาญาณ” (อัตเตาบะฮฺ 9 : 28)
อันที่จริง พระองค์ทรงกล่าวแก่ชาวมักกะฮฺว่า จะไม่ให้พวกมุชริกีน เข้านครมักกะฮฺ หลังฮิจเราะฮฺที่เก้า เพื่อมาทำฮัจญ์และอุมเราะฮฺ หรือเข้ามาร่วมกับผู้ศรัทธาก็ตาม การห้ามดังกล่าว เท่ากับเป็นการทำลายเศรษฐกิจ ของเมืองมักกะฮฺในเวลาเดียวกัน เพราะพวกมุชริกีน จะเข้ามักกะฮฺเพื่อการซื้อการขาย และการจับจ่ายใช้สอยในช่วงฮัจญ์ทุกปี แล้วการห้ามดังกล่าว จะทำให้เหตุปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดริสกีต้องหยุดชะงักลง ขณะเดียวกัน พระองค์ก็ทรงกล่าวแก่ชาวมักกะฮฺ เพื่อจะให้เกิดความสบายใจว่า พระองค์จะนำความกรุณามาให้อย่างเหลือล้น
แต่ความเชื่อมั่น ในคำตรัสของพระองค์นั้น จะเข้าถึงจิตใจของชาวมักกะฮฺทุกคนหรือเปล่า เพราะสภาพที่จะตามมา ก็คือเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิดริสกี ต้องหยุดหมด แน่นอน สำหรับผู้ที่มีศรัทธาอย่างมั่นคงในคำตรัสของพระองค์ จิตใจของพวกเขาจะสงบด้วยความรู้สึก ถึงความปลอดภัย แต่สำหรับผู้ที่มีอีมานที่สั่นคลอน พวกเขาคิดว่าทรัพย์สินเท่านั้น ที่จะทำให้จิตใจพวกเขามั่นคงและวางใจได้
แน่นอน การกลัวจนทำให้มนุษย์เกิดความเขลาและเข้าใจผิดว่า เหตุปัจจัยทางวัตถุจะนำไปสู่ริสกี หรือมนุษย์เข้าใจผิดว่า เขาเป็นผู้กำหนดริสกี ทั้งที่ความจริงแล้ว เหตุปัจจัยทางวัตถุ และมนุษย์ไม่มีความสามารถ ให้คุณและโทษแก่ตัวเขาเองได้ เว้นไว้แต่ว่าสิ่งนั้น เป็นพระประสงค์ของอัลลอฮฺเท่านั้น
ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงกล่าวว่า :
“มุฮัมมัดจงประกาศว่า ฉันไม่มีอำนาจ ให้คุณ ให้โทษแก่ตัวฉันเองเลยแม้แต่น้อย ยกเว้น สิ่งที่อัลลอฮฺจะทรงประสงค์ให้เกิดเท่านั้น ถ้าสมมติว่าฉันรู้สิ่งต่างๆ ได้ล่วงหน้า ฉันจะต้องตักตวงเอาความดีไว้หมด จะไม่มีสิ่งเลวร้ายมาประสบกับฉันแต่อย่างใด แต่ฉันเป็นเพียงร่อซูล ผู้ตักเตือนคนที่ทำชั่ว และผู้แจ้งข่าวดีแก่กลุ่มคน ผู้ศรัทธาเท่านั้น” (อัลอะอฺร็อฟ 7 : 188)
นี่คือ ความศรัทธา และความเชื่อมั่นว่า ทุกสิ่งต้องขึ้นอยู่กับ พระประสงค์ของพระองค์ โดยเฉพาะ ริสกีของเรา หากเราอดทนที่จะแสวงหาริสกีที่ฮะลาล พระองค์ก็จะประทานริสกีที่ฮะลาล ให้กับเรา แต่ถ้าเรามีความเชื่อว่า เราเองมีความสามารถ รวมกับเหตุปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เราได้รับริสกีเพิ่มขึ้น อันนี้เป็นความคิดที่ฝ่าฝืน พระบัญญัติของพระองค์ ด้วยการแสวงหาริสกีที่ฮะรอม
ดังนั้น เราต้องระลึกอยู่เสมอว่า ชีวิตแห่งโลกนี้ คือสถานที่แห่งการทดสอบ ด้วยการที่พระองค์ให้เราเป็นผู้สืบทอดพระประสงค์ของพระองค์ ว่าเราจะดำเนินตามหลักธรรมคำสอนของพระองค์หรือไม่ ส่วนชีวิตในโลกหน้า คือ สถานที่แห่งการตอบแทนความดี และความชั่วของมนุษย์
Tags: