อัลลอฮ์จะไม่มีวันทอดทิ้งผู้ศรัทธา
ตราบที่อยู่ในหนทางอัลลอฮ์จะไม่มีวันทิ้ง
สำหรับคนที่เชื่อมั่นในอัลลอฮ์อย่างสุดหัวใจ
ยิ่งบททดสอบหนักหนา
ความศรัทธาของเขาจะยิ่งแรงกล้า
ยิ่งสถานการณ์ชวนสิ้นหวัง
ความปรารถนาในอัลลอฮ์ของเขาจะยิ่งลุกโชน ยิ่งฟ้ามืดมิด
เขาจะรู้ดีว่า...ยิ่งใกล้สว่างแล้ว!
ในวันที่บททดสอบหนัก ๆ ถาโถมเข้ามาซ้ำ ๆ
การได้กลับมาทบทวนเรื่องราวของ “ท่านหญิงฮาญัร” อะลัยฮัสสลาม อีกครั้ง
มันให้พลังได้อย่างแรง
ตอนที่นบีอิบรอฮีมพาฮาญัรกับลูกน้อย อะลัยฮิมุสสลาม มาปล่อยทิ้งกลางทะลทรายเวิ้งว้าง
เพียงเธอได้รู้ว่า สิ่งที่สามีทำเป็นคำสั่งของอัลลอฮ์
เธอก็สามารถเอ่ยได้อย่างชัดเจนมั่นใจว่า
"ถ้าเช่นนั้น อัลลอฮ์ จะไม่ทิ้งเรา"
เอาจริง ๆ นะ
ลำพังผู้หญิงตัวคนเดียวกลางทะลทรายไร้ผู้คนก็เหลือทนอยู่แล้ว
นี่ยังมีชีวิตน้อย ๆ ที่เป็นทั้งหมดของความห่วงใย
แต่เธอก็ยังสามารถเอ่ยประโยคที่แสดงความเชื่อมั่นสุดหัวใจเช่นนี้ออกมา
เรื่องมหัศจรรย์ที่สุดก็คือว่า
ช่วงเวลาที่เธอกล่าวเช่นนั้น
มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่เธอเห็นทางรอดแล้ว
ไม่ใช่สถานการณ์ที่พอจะมองออกว่าความช่วยเหลือจะมาจากทางไหน
ไม่ใช่สภาพที่คาดการณ์ถึงทางออกได้
แต่เป็นช่วงเวลาที่หากมองด้วยสายตามนุษย์
...ก็เรียกได้ว่ามืดไปหมดทุกด้าน
ไม่มีบ้านสักหลัง
ไม่มีใครสักคน
พูดให้ชัดลงไป...
ตอนที่ฮาญัรประกาศว่า "อัลลอฮ์จะไม่ทิ้ง"
คนทั่วไปอาจเห็นเป็นอื่นว่าเธอกำลังถูกทิ้ง!
การมองให้เห็นสถานการณ์ของชีวิตท่านหญิงฮาญัร ณ ตอนนั้นมันสำคัญมากนะ
เพราะในชั่วชีวิตหนึ่งของเรา มันจะต้องมีแน่ ๆ
ช่วงเวลาที่หนักหนาแบบที่ถ้ามองด้วยสายตาภายนอก
ก็ราวกับถูกทอดทิ้งโดยทุกคนและทุกสิ่ง
แต่เราจะผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้
ก็ด้วยการเชื่อมั่นสุดหัวใจ
ว่าที่จริงแล้วเราไม่เคยถูกทิ้ง
อย่างน้อยที่สุด จะมีผู้หนึ่งเสมอ ที่ไม่มีวันทิ้งเรา
นั่นคือ อัลลอฮ์!
บทความที่น่าสนใจ
- อย่าดูถูกบททดสอบของผู้อื่น
- ดุอาอ์ท่านนบีมูซาเมื่อยามขัดสนยากจนลำบากทุกข์ทรมาน
- บททดสอบที่ทำให้ใกล้ชิดอัลลอฮ์ย่อมดีกว่าการคลี่คลายที่ทำให้ห่างไกลพระองค์
บททดสอบที่ถาโถมเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สถานการณ์ที่เลวร้ายแล้ว ก็ยังเลวร้ายลงไปอีก
ต้องไม่ทำให้เราหยุดคิดดีต่ออัลลอฮ์
ต้องไม่ทำให้เราหมดหวังในพระองค์
เหมือนที่ฮาญัรไม่เคยสิ้นหวัง
แม้ในช่วงเวลาที่เหมือนไม่เหลือใคร
ความเชื่อมั่นอันยิ่งใหญ่ของเธอ
ปรากฏขึ้นพร้อม 3 เงื่อนไขสำคัญ
1-ตรวจสอบแล้วว่า จุดที่ตัวเองยืนนั้นอยู่บนหนทางของอัลลอฮ์
2-เชื่อมั่น 100% ว่าอัลลอฮ์ต้องช่วยเหลือ
3-ลงมือทำจนสุดแรง ในส่วนที่ตัวเองมีความสามารถ
ฮาญัรถามย้ำสามีว่าที่เธอกับลูกต้องมาถูกปล่อยไว้กลางทะเลทรายเป็นคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ใช่ไหม?
เมื่อได้รับคำยืนยันว่า “ใช่!” (ข้อ 1)
เธอก็ยอมรับ และเชื่อมั่นหมดใจว่าอัลลอฮ์ต้องช่วย (ข้อ 2)
แต่ความเชื่อมั่นนั้น ไม่ได้ทำให้เธอนอนอยู่เฉยๆ
เธอวิ่งหาน้ำให้ลูกน้อยไปมาระหว่างหุบเขากลางทะเลทรายถึง 7 เที่ยว (ข้อ 3)
กว่ารางวัลแห่งความเชื่อมั่นและการลงมือทำจะปรากฏ อย่างน้ำ “ซัมซัม” ที่ผุดออกมา
และเพราะความเชื่อมั่นอันแสนมหัศจรรย์ของเธอ
ทำให้รางวัลที่ได้รับยิ่งมหัศจรรย์สาสม
จากทะเลทรายร้อนแล้งไม่มีที่พักอาศัย
กลายเป็นที่รวมตัวของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดบนหน้าแผ่นดิน!
บทความที่น่าสนใจ
- อัชชะฟาอะฮฺความช่วยเหลือของนบีมุหัมหมัดในวันกิยามะฮฺ
- ดุอาอ์ขออภัยโทษ ขอให้ยืนหยัด และขอให้ได้รับชัยชนะ
- ดุอาอ์ขอให้ไม่ต้องแบกภาระที่เกินความสามารถ
- เมื่อเจอกับปัญหาหนัก จิตใจทุกข์ระทม อ่าน 6 อายัตนี้ช่วยได้
นี่คือผลลัพธ์ของความเชื่อมั่นสุดหัวจิตหัวใจของบ่าวคนหนึ่ง
ว่าตราบใดที่เรายังยืนอยู่ในหนทางของอัลลอฮ์
และลงมือทำในส่วนของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว
พระองค์จะไม่ทิ้ง
ไม่มีทาง!
เนื้อหาจาก : หนังสือเธอไม่ได้ต้องการใครมากไปกว่าอัลลอฮ์
Credit: Baan Muslim
Tags: