มุสลิมต้องไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง

การซื้อสิทธิขายเสียง หมายถึง พฤติกรรมการทุจริตเลือกตั้งโดยใช้เงินแลกเปลี่ยนกับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซื้อเสียง หรือการเสนอสิ่งตอบแทนในรูปผลประโยชน์หรือทรัพย์สินต่างๆ หรืออาจเป็นการสัญญาว่าจะให้ทรัพย์ สินสิ่งตอบแทนแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ลงคะแนนหรืองดเว้นการลงคะแนนแแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใด หรือพรรคการเมืองใดในเขตเลือกตั้งนั้น

การซื้อเสียง มีหลายวิธีแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งการซื้อผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือซื้อคู่แข่ง โดยการที่ผู้สมัครเสนอเงื่อนไขต่าง ๆ แก่คู่แข่งขันเพื่อไม่ให้ลงสมัครแข่งขันกับตน การซื้อบุคคลที่มีอิทธิพล หรือมีความนิยมในหมู่ชาวบ้านรวมทั้งครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พระ หรือผู้นำชุมชน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือให้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในท้องถิ่นนั้น ๆ ลงคะแนนเสียงให้แก่ตน

การซื้อด้วยการสัญญาว่า จะให้ทรัพย์สินหรือสิ่งตอบแทน เป็นการซื้อสิทธิขายเสียงโดยฝ่ายผู้ซื้อสิทธิมีเงื่อนไขว่า จะมอบสิ่งตอบแทนนั้นให้แก่ผู้ขายสิทธิภายหลัง ที่ทราบผลการเลือกตั้งแล้ว โดยจะมีการยึดบัตรประชาชนไว้เป็น หลักฐาน หรือนำไปใช้ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ยังมีการซื้อเสียงด้วยวิธีการพนันกันว่าหมายเลขใดจะชนะการเลือกตั้ง โดยถ้าผู้ใดทายว่าหมายเลข ของตนเองถูก จะได้รับเงินรางวัลมากมายกว่าหมายเลขอื่น ทำให้ผู้ที่เล่นพนันต้องไปลงคะแนนเพื่อให้ชนะจะ ได้รับเงินรางวัล รวมถึงการซื้อเสียงด้วยการนำสิ่งของที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต เช่น ข้าวสาร กะปิ น้ำปลา เป็นต้น ไปแจกหรือไม่เช่นนั้นก็ให้เป็นเงินสดด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ

การซื้อสิทธิขายเสียงถือว่าเป็นสิ่งที่กีดขวางความสำเร็จ เหนี่ยวรั้ง และบ่อนทำลายการพัฒนาระบบการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอย่างใหญ่หลวง เพราะเมื่อมีการลงทุนซื้อเสียงของผู้สมัครรับการเลือกตั้ง เพื่อเข้าสู่การ ดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจทางการเมือง ด้วยแนวคิดเดียวกับการลงทุนในลักษณะเดียวกับการค้าขาย ซึ่งผู้ลงทุน ย่อมมุ่งหวังผลตอบแทนหรือกำไรที่จะได้รับการการลงทุนนั้น ผู้ลงทุนซื้อเสียงย่อมต้องหวังผลกำไรเช่นกัน ดังนั้น เมื่อซื้อเสียงได้สำเร็จจนได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ย่อมจะแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ทางการ เมืองนั้น เพื่อให้ได้เงินลงทุนที่ซื้อเสียงคืนกลับมาพร้อมด้วยกำไร รวมไปถึงการมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ใน รูปตัวเงิน เพื่อจะสะสมไว้สำหรับการซื้อเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อ ๆ ไป

มุสลิมกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียง

เมื่อการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นการทุจริต การคดโกง การได้มาซึ่งสิทธิอันมิชอบธรรม ฉะนั้น ผู้ที่เป็นมุสลิมจึงต้อง ระมัดระวังเป็นพิเศษในการที่จะออกห่างจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง อย่าได้นำทรัพย์ทุจริตอันเล็กน้อยเหล่านี้มา ปะปนกับริซกีที่เราแสวงหามาอย่างสุจริต เพราะเงินที่ได้มาจากหนทางที่ไม่ถูกต้องนั้นมันจะนำพาความหายนะ มาสู่ตัวของเรา พระองค์อัลลอฮ์ ซุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงกล่าวไว้ว่า

“และพวกเจ้าจงอย่ากินทรัพย์สมบัติของพวกเจ้าระหว่างพวกเจ้าโดยมิชอบ…” (อัลบะกอเราะฮฺ : 188)

รายงานจากเคาละฮฺ อัลอันศอริยะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า

“ความจริงแล้ว บรรดาผู้คนที่ไปเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของอัลลอฮ์โดยไม่ชอบธรรมนั้น สำหรับพวกเขา ในวันปรโลกแล้วคือไฟนรก” (บันทึกโดยบุคอรียฺ : 3118)

ซึ่งผลลัพท์ของผู้ที่ชอบนำเงินที่ได้มาไม่ชอบธรรมมาใช้ในเรื่องอาหาร เครื่องนุ่งห่มนั้น แน่นอนว่าการขอ ดุอาอฺต่ออัลลอฮ์นั้นจะถูกปฏิเสธ มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

“ความจริงแล้วพระองค์อัลลอฮ์นั้นประเสริฐ พระองค์จะไม่ทรงตอบรับนอกเสียจากสิ่งที่ดี และความจริง แล้วอัลลอฮ์ทรงสั่งใช้บรรดาผู้ศรัทธา ดังเช่นที่สั่งใช้บรรดาศาสนทูตต่าง ๆ เช่นกัน ดังที่พระองค์ทรง ตรัสว่า : "โอ้บรรดาศาสนทูตทั้งหลาย พวกท่านจงบริโภคจากสิ่งที่ดี ๆ ทั้งหลาย และพวกท่านจง ประกอบการงานที่ดี ๆ" พระองค์ทรงตรัสว่า : "โอ้บรรดาผู้ที่ศรัทธาทั้งหลาย พวกท่านจงบริโภคจาก สิ่งที่ดี ๆ ทั้งหลาย จากสิ่งที่เราประทานให้เป็นปัจจัยยังชีพกับพวกท่าน" ต่อจากนั้นท่านนบีก็กล่าวถึง ชายคนหนึ่งที่เดินทางไกลมา ผมยุ่งเหยิง ร่างกายเปรื้อนฝุ่น เขายกมือขึ้นสู่ฟากฟ้าขอดุอาอฺ (พลางกล่าวว่า) โอ้อัลลอฮ์ โอ้อัลลอฮ์ ในขณะที่อาหารของเขานั้นมาจากสิ่งหะรอม เครื่องดื่มของเขา มาจากสิ่งหะรอม เสื้อผ้าของเขามาจากสิ่งหะรอม และเขาก็บริโภคแต่สิ่งที่มาจากของหะรอม ฉะนั้นดุอาอ์ของเขามันจะถูกตอบรับได้อย่างไร” (บันทึกโดยมุสลิม : 1015)

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุสลิมในยุคสุดท้ายนี้ต้องระวังตนเองอย่าให้ตกอยู่ในฟิตนะฮฺ ความวุ่นวายต่าง ๆ ในเรื่องของทรัพย์สินที่ไม่เป็นที่อนุมัติ หรือ ไม่ชอบธรรม มีรายงานจากท่านกะอฺบ อิบนิ อิยาฎ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ความแล้วจริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

إِنَّ لِكُلِّ أُمَّةٍ فِتْنَةً ، وَإِنَّ فِتْنَةَ أُمَّتِي المَالُ

“ความจริงแล้วทุก ๆ ประชาชาติ จะต้องพบเจอกับฟิตนะฮฺ (บททดสอบ) และฟิตนะฮฺที่ประชาชาติของฉัน จะต้องพบเจอ ก็คือทรัพย์สินเงินทอง” (บันทึกโดยอะหฺมัด , มุสนัด : 17471)

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม โดยท่านได้กล่าวว่า

لَيَأْتِيَنَّ عَلَى النَّاسِ زَمَانٌ لاَ يُبَالِي الْمَرْءُ بِمَا أَخَذَ الْمَالَ، أَمِنَ الْحَلاَلِ أَمْ مِنَ حَرَام

“จะมียุคสมัยหนึ่ง ที่ผู้คนจะไม่ใส่ใจว่า ทรัพย์สินที่แสวงหามาได้นั้น มาจากสิ่งที่อนุมัติ หรือสิ่งต้องห้าม” (บันทึกโดยบุคอรียฺ : 2083)

มุสลิมจะต้องปฏิเสธในการที่จะรับสินบนจากบรรดานักการเมือง หรือพรรคการเมืองทั้งหลาย ซึ่งผลประโยชน์ เพียงแค่เล็กน้อยนี้นั้นอาจจะต้อง แลกมากับความกริ้วโกรธของพระองค์อัลลอฮ์ และท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอ ฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีรายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อัมรฺ เล่าว่า

“การสาปแช่งของอัลลอฮ์นั้นจะประสบกับผู้ที่ให้สินบน และผู้ที่รับสินบน” (บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ : 2313 เศาะเหี๊ยะหฺอิบนิมาญะฮฺอัลบานียฺ : 1885)

มีรายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อัมรฺ เล่าว่า

لَعَنَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ الرَّاشِيَ وَالْمُرْتَشِيَ

“ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้สาปแช่งผู้ให้สินบน และผู้ที่รับสินบน”

(บันทึกโดยติรมีซียฺ : 1337 อบูดาวุด : 3580 อะหมัด : 6496 เศาะเหี๊ยะหฺติรมีซีย์อัลบานียฺ : 1337)

บรรดานักปราชญ์อิสลามได้ให้ความหมายของคำว่า “การสาปแช่งของอัลลอฮ์” คือผู้ที่ถูกทำให้ห่างไกลจาก ความเมตาของอัลลอฮ์

ผู้ที่ถูกสาปแช่งจากอัลลอฮ์นั้น คือผู้ที่ห่างไกลจากความเมตตาของอัลลอฮ์ คือบุคคลที่อัลลอฮ์ทรงโกรธกริ้ว ต่อเขา และการลงโทษก็จะเกิดขึ้นกับเขาเช่นเดียวกัน

เช่นเดียวกัน การซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้นก็คือการโกงรูปแบบหนึ่ง เพราะทุจริตให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงข้างมากจาก ประชาชนที่ได้รับเงินสินบน ซึ่งอิสลามนั้นห้ามการโกง การทุจริตทุกรุปแบบ หรือการได้มาโดยไม่ชอบธรรม มีรายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

وَمَنْ غَشَّنَا فَلَيْسَ مِنَّا

“…และบุคคลใดโกงเรา เขาไม่ใช่พวกเรา” (บันทึกโดยมุสลิม : 101)

มุสลิมจะต้องมีจุดยืนในการที่จะไม่หวังผลประโยชน์ หรือชื่อเสียงเพียงเล็กน้อยจากมนุษย์คนไหนทั้งสิ้น ถ้ามุสลิม คนใดก็แล้วแต่หวังผลประโยชน์ หวังชื่อเสียงจากนักการเมือง โดยไปเป็นหัวคะแนนในการเลือกตั้ง ไปช่วยหา เสียงให้กับนักการเมืองที่ฉ้อฉล คดโกง นั้น อัลลอฮ์ก็จะทรงให้เขานั้น ไม่ได้รับความดีงามแต่อย่างใด มีรายงาน จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

“บุคคลใดแสวงหาความพอใจของอัลลอฮ์ด้วยความโกรธของมนุษย์ทั้งหลาย อัลลอฮ์ได้ทรงพอใจต่อเขา และได้ทรงทำให้มนุษย์ทั้งหลายพอใจต่อเขาด้วย และบุคคลใดแสวงหาความพอใจของมนุษย์ ทั้งหลายด้วยความกริ้วโกรธของอัลลอฮ์ อัลลอฮ์ก็ทรงกริ้วโกรธเขา และทรงทำให้มนุษย์ทั้งหลายโกรธเขา”

(บันทึกโดยอิบนุหิบบาน : 278 เศาะเหียะตัรฆีบอัลบานียฺ : 2250)

ดังนั้น สิ่งที่มุสลิมทุกคนต้องคำนึงอยู่เสมอว่าการที่เราเลือกผู้ใดก็ตามไปทำหน้าที่ปกครองบ้านเมืองในระดับต่าง ๆ นั้น มิได้ยุติลงในการเลือกตั้ง เสร็จสิ้น แต่เราต้องมีส่วนรับผิดชอบในตัวบุคคลที่เราเลือก ถ้าบุคคลที่เราเลือกไป ทำหน้าที่ทางสังคมอย่างดี อย่างยุติธรรม ก็เท่ากับว่าเรามีส่วน ร่วมในความดีนั้นด้วย แต่ถ้าเรารับเงินทุจริตจาก นักการเมือง แล้วนักการเมืองเหล่านั้นเข้าไปโกงกินบ้านเมือง ทุจริตคอรัปชั่น ก็เท่ากับเราก็มีส่วน ร่วมเป็นพยาน ว่าเขาเป็นคนดี แต่เขากับเป็นคนเลว เท่ากับเราเป็นพยานเท็จให้กับนักการเมืองนั้น

credit: ศูนย์เรียนรู้อิสลาม

บทความอิสลามน่ารู้

• ดุอาอ์ขออภัยโทษและขอให้รอดพ้นจากนรก
• ดุอาอ์ขอไม่ให้จิตใจหันเหออกจากทางนำ
• รู้ไหม..ความอัปยศในวันกิยามะฮฺ คืออะไร