หะดีษบทที่ 18 ความเป็นมาของการละหมาดตะรอวีหฺ
หลักฐานที่สนับสนุนให้ละหมาดตะรอวีหฺ
عَنْ عَائِشَةَ رَضِيَ اللهُ عَنْهَا أَنَّ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّم خَرَجَ مِنْ جَوْفِ الْلَيْلِ فَصَلَّى فِيْ الْمَسْجِدِ فَصَلَّى رِجاَلٌ فَأَصْبَحَ النَّاسُ يَتَحَدَّثُوْنَ بِذَلِكَ فَاجْتَمَعَ أَكْثُرُ مِنْهُمْ ، فَخَرَجَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمِ فِيْ الْلَيْلَةِ الثَّانِيَةِ فَصَلُّوا بِصَلاَتِهِ فَأَصْبَحَ النَّاسُ يَذْكُرُوْنَ ذَلِكَ ، فَكَثَرَ أَهْلُ الْمَسْجِدِ مِنَ اللَّيْلَةِ الثَّالِثَةِ فَخَرَجَ فَصَلُّوا بِصَلاَتِهِ فَلَمَّا كَانَتْ الْلَيْلَةِ الرَّابِعَةُ عَجَزَ الْمَسْجِدُ عَنْ أَهْلِهِ ، فَلَمْ يَخْرُجْ إِلَيْهِمْ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمِ فَطَفِقَ رِجَالٌ مِنْهُمْ يَقُوْلُوْنَ : " الصَّلاَةُ " فَلَمْ يَخْرُجْ إِلَيْهِمْ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمِ حَتَّى خَرَجَ لِصَلاَةِ الْفَجْرِ ، فَلَماَّ قَضَى الفَجْرَ أَقْبَلَ عَلَى النَّاسِ ثُمَّ تَشْهَّدَ فَقَالَ : أَمَّا بَعْدُ ، فَإِنَّهُ لَمْ يَخْفَ عَلَيَّ شَأْنُكُمْ اللَّيْلَةَ، وَلَكِنِّى خَشِيْتُ أَنْ تُفْرَضَ عَلَيْكُمْ صَلاَةُ اللَّيْلِ فَتَعْجِزُوْا عَنْهاَ.
ความหมาย จากท่านหญิงอะอีชะห์ เราะฏิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า "ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ออกไปในเวลากลางคืน (ในค่ำคืนของเดือนรอมฏอน) ท่านปฏิบัติละหมาด (ตะรอวีหฺ) ในมัสยิดของท่าน (คือมัสยิดอันนะบะวีย์ในนครมะดีนะห์) ซึ่งมีคนเป็นจำนวนมากละหมาดตามท่าน"
ในวันต่อมา บรรดาเศาะฮาบะห์จึงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว (คือเกี่ยวกับการละหมาดตะรอวีหฺ ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยมี) ในคืนที่สองบรรดาเศาะฮาบะห์มีการชุมนุมจำนวนมากขึ้นกว่าคืนที่ผ่านมาและท่านรอซูลก็เดินออกไปยังมัสยิด พวกเขาจึงละหมาด (ตะรอวีหฺ) ตามท่านรอซูล และในวันต่อมา มีคนจำนวนมากพูดถึงเรื่องดังกล่าว ในคืนที่สามบรรดาเศาะฮาบะห์จึงออกไปยังมัสยิดมากยิ่งขึ้น และท่านรอซูลก็เดินออกไปยังมัสยิด พวกเขาจึงละหมาด (ตะรอวีหฺ) ตามท่านรอซูล
เมื่อถึงคืนที่สี่ ภายในมัสยิดนั้นเต็มไปด้วยบรรดาเศาะฮาบะฮ คืนนั้นท่านรอซูลไม่ได้ออกไปยังมัสยิดพร้อมๆ กับพวกเขา ดังนั้น ในจำนวนพวกเขาจึงพูดขึ้นว่า "ละหมาด" (เป้าหมายเพื่อให้ท่านรอซูลได้ยิน) แต่ท่านรอซูลก็ไม่ได้ออกไปยังพวกเขา (พวกเขาคอยท่านรอซูลกระทั่งเวลาซุบฮ) ท่านรอซูลจึงออกมาเพื่อละหมาดซุบฮ์ หลังจากละหมาดซุบฮ์แล้ว ท่านรอซูลจึงหันมา (เป็นการเริ่มต้นในการกล่าวคำพูด) และท่านรอซูลจึงกล่าวว่า แท้จริงแล้วมิใช่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับพวกท่านเมื่อคืนนี้ แต่ฉันเกรงว่าจะเป็นการฟัรดูเหนือพวกท่านในการละหมาดกลางคืน (ตะรอวีหฺ) ซึ่งจะทำให้พวกท่านอ่อนแอที่ปฏิบัติ" (มุตตะฟะกุน อะลัยห์)
บทเรียนจากหะดีษ
1. ส่งเสริมให้มีการละหมาดกิยามุลลัยล์หรือละหมาดตะรอวีหฺในเดือนรอมฏอน เพราะในการละหมาดตะรอวีหฺมีความประเสริฐที่ยิ่งใหญ่มาก
2. ท่านรอซูลในฐานะเป็นผู้นำของประชาชาติมุสลิม ท่านเองได้ประกอบการละหมาดตะรอวีหฺในเดือนรอมฏอน
3. หะดีษนี้บ่งบอกถึงความจริงจังของบรรดาเศาะฮาบะฮ์ และความตั้งใจในการปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮฺตามรอซูล
4. ท่านรอซูลมีความโอบอ้อมอารีต่อประชาชาติของท่าน
------
บทความที่เกี่ยวข้อง
- มัดรวมรอมฎอน ดุอาอ์ คำเนียต ละหมาด ซะกาต
- กินสะหูรให้รอดอย่างไรในช่วงอากาศร้อนจัด
- อินทผลัมสดกับอินทผลัมแห้งกินแบบไหนดีกว่ากัน?
- บทดุอาอ์เมื่อเห็นจันทร์เสี้ยว (ฮิลาล)
- คำเนียต คำกล่าว หรือการตั้งเจตนา ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
- ดุอาอ์ละศีลอด
- วิธีละหมาดตะรอวีหฺ
- คํากล่าวหรือคำเหนียตซะกาตฟิตเราะฮฺ (ทั้งผู้ให้และผู้รับ)
- มีเงินเก็บเท่าไหร่? ถึงต้องออกซะกาต ตัวอย่างการคิดเงินซะกาตเป็นเงินบาทแบบง่ายๆ
- ความพิเศษและความประเสริฐในเดือนรอมฎอน
------
Tags: