7 ข้อเสียของการรับประทานโปรตีนจากสัตว์และนมวัว
ในหลายมักคิดว่า เมื่อเราต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้นก็รับประทานเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น ในคนที่เล่นกล้ามก็จะไปรับประทานโปรตีนจากพวกเวย์โปรตีน จากนม ซึ่งการรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ โปรตีนจากนมนั้น ก็มีข้อเสียที่บางคนอาจยังไม่รู้เช่นกัน แต่ในปัจจุบันคนเริ่มหันมารับประทานโปรตีนจากพืชเพิ่มมากขึ้น ทั้งนักกีฬาต่างๆ เช่น นักกีฬาวิ่ง นักกล้าม คนที่เล่นเวท แล้วพบว่าความแข็งแรง ความเร็ว พละกำลัง ดีขึ้นเมื่อกินโปรตีนจากพืช ทำให้มี Performance ในการเล่นกีฬาได้ดีกว่า แล้วโปรตีนจากสัตว์หรือนมมีข้อเสียอะไรบ้าง วันนี้เราจึงนำข้อเสียของการทานโปรตีนจากสัตว์และโปรตีนจากนมมาฝากกันค่ะ
1. มีไขมันอิ่มตัวสูง ไขมัน คือ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เนื้อสัตว์รสชาติอร่อยถูกปากกว่าพืชผักมาก แต่ก็ตามมาด้วยโทษเช่นกัน ไขมันในเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่แล้วเป็นไขมันอิ่มตัวแล้วถูกจัดว่าอยู่ในไขมันประเภทเลว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหลอดเลือดหัวใจ
2. มีคอเลสเตอรอลสูง เนื่องจากโปรตีนสัตว์หรือโปรตีนที่มาจากนมจะมีปริมาณคอเลสเตอรอลที่สูงกว่าโปรตีนจากพืชอยู่แล้ว ในโปรตีนพืชจะไม่มีคอเลสเตอรอลเลย
3. ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมวัวจะทำให้เกิดภูมิแพ้ได้สูง เพราะโปรตีนที่มาจากนมวัวจะมีเคซีน (Casein) เป็นโปรตีนที่ย่อยยาก ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ง่าย
4. ไตทำงานหนักขึ้น เพราะว่าโปรตีนจากสัตว์หรือโปรตีนจากนมทำให้ร่างกายเป็นกรดมากขึ้น เนื่องจากไตมีหน้าที่ในการขับกรดส่วนเกินออกจากร่างกายจึงทำให้ไตทำงานหนักขึ้น
5. เกิดกระดูกบางกระดูกพรุน คนที่รับประทานโปรตีนจากสัตว์หรือนมจะทำให้เกิดกระดูกบางกระดุกพรุนมากขึ้น การศึกษาพบว่า ประเทศที่มีการดื่มนมในปริมาณมาก เช่น ในโซนยุโรปหรืออเมริกา เมื่อเทียบกับประเทศที่ดื่มนมวัวน้อย เช่น ประเทศญี่ปุ่น พบว่า ประเทศที่ทานนมวัวน้อยจะเกิดกระดูกบางกระดูกพรุนได้น้อยกว่าประเทศที่ดื่มนมวัวในปริมาณมาก เมื่อร่างกายเราเป็นกรดมากขึ้น ทำให้กระดูกต้องสลายแคลเซียมออกมาเพื่อไปบาลานซ์ความเป็นกรดของร่างกาย ซึ่งหากเรารับประทานโปรตีนจากพืชเราจะได้แร่ธาตุต่างๆ เนื่องจากพืชปลุกมาจากดินมีการดูดซึมแร่ธาตุจากดินเข้ามา มีสารต้านอนุมูลอิสระที่โปรตีนจากสัตว์และโปรตีนจากนมไม่มี เมื่อทานโปรตีนจากพืชเราจะได้แร่ธาตุเข้ามาจึงทำให้ร่างกายเป็นด่าง ในกระดูกของเราไม่ได้มีเฉพาะแคลเซียมยังมีแร่ธาตุตัวอื่นๆ อีกด้วย แล้วเมื่อแร่ธาตุเหล่านี้ไปเกาะที่กระดูกก็จะทำให้กระดูกแข็งแรง ซึ่งวิตามินที่จะทำให้แร่ธาตุไปเกาะที่กระดูก คือ วิตามิน K2 จะทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ไม่เปราะ ไม่หักง่าย
6. อายุสั้นลง การที่คนจะมีอายุยืนยาวหรืออยู่เกิน 100 ปี โดยมากแล้วจะทานอาหารที่มีกรดอะมิโนเมไทโอนีน (Methionine) ต่ำ ซึ่งกรดอะมิโนเมไทโอนีนส่วนมากจะพบในเนื้อสัตว์ นม เพราะฉะนั้นหากต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวควรทานกรดอะมิโนเมไทโอนีนให้น้อยๆ ซึ่งการรับประทานโปรตีนจากพืชจะมีสัดส่วนของกรดอะมิโนเมไทโอนีนที่ต่ำ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
7. มีโอกาสเกิดมะเร็ง การทานเนื้อสัตว์สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง โดย WHO ได้จัดตั้งองค์กร IARC (International Agency for Research on Cancer) คือ องค์กรที่มุ่งวิจัยเกี่ยวกับมะเร็ง ได้ศึกษาดูว่ามีสารอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดมะเร็ง โดยได้กำหนดสารที่ก่อมะเร็งออกมา คือ 1. เนื้อสัตว์แปรรูป 2. เนื้อแดง เช่น วัว หมู ในประเทศที่รับประทานเนื้อแดงปริมาณมากมีโอกาสทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่สูง หากต้องการรับประทานเนื้อแดงแนะนำควรทานเนื้อแดง 400 กรัม/สัปดาห์ ซึ่งการกินเนื้อแดงต่ำกว่า 400 กรัม/สัปดาห์ โอกาสเกิดมะเร็งจะลดลง
หากรับประทานโปรตีนจากพืช แนะนำโปรตีนที่ไม่ได้ทำมาจากถั่วเหลือง เนื่องจากถั่วเหลืองจะมารบกวนการทำงานของฮอร์โมน ซึ่งในถั่วเหลืองจะมีไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ซึ่งในผู้ชายที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อไม่ได้ต้องการไฟโตเอสโตรเจน โดยมันจะไปรบกวนฮอร์โมนจึงทำให้การสร้างกล้ามเนื้อทำได้ยากขึ้น แล้วในถั่วเหลืองยังมีการทำ GMOs (Genetically Modified Organisms) หรือการตัดต่อพันธุกรรมเยอะจึงควรเลี่ยงโปรตีนที่ทำมาจากถั่วเหลืองจะดีกว่า
แนะนำให้ใช้โปรตีนจากพืช พีโปรตีน (Pea Protein) เช่น โปรตีนจากถั่วลันเตา ถั่วดาวอินคา อัลมอนด์ เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) ซึ่งในเมล็ดแฟลกซ์จะได้โอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบ แต่ในโปรตีนจากเนื้อสัตว์จะมีโอเมก้า 6 ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ
จะเห็นได้ว่า เหตุผลที่ไม่ควรรับประทานโปรตีนจากสัตว์มีหลายอย่างด้วยกัน และเป็นบ่อทำลายสุขภาพของเราได้ การเลือกรับประทานโปรตีนจากพืชจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ส่วน ยังไงก็อย่าลืมหาโปรตีนพืชมารับประทานกันนะคะ เพื่อร่างกายและสุขภาพที่แข็งแรงของเราค่ะ
credit: Healthfocusclinic
Tags: