หากวันใดที่เสียงแตรสังข์ “มลาอิกะห์อิสรอฟีล” ดังขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จบสิ้น
แตรสังข์มีลักษณะคล้ายเขาสัตว์ อัลลอห์จะทรงบัญชาให้มลาอิกะห์ อิสรอฟีล เป่าแตรสังข์ครั้งแรกซึ่งจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดินมลายสิ้นหมด เว้นแต่ผู้ที่อัลลอห์ทรงประสงค์ให้ดำรงชีวิตอยู่เท่านั้น จากนั้นพระองค์จะทรงบัญชาให้มีการเป่าแตรสังข์ครั้งที่สอง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะฟื้นคืนชีพมาตามเดิมอีกครั้ง[สภาพของสรรพสิ่งทั้งหลายในขณะที่มีการเป่าแตรสังข์ ]
1. อัลลอห์ได้ตรัสว่า
«فَتَوَلَّ عَنْهُمْ يَوْمَ يَدْعُو الدَّاعِ إِلَى شَيْءٍ نُكُرٍ، خُشَّعًا أَبْصَارُهُمْ يَخْرُجُونَ مِنَ الأجْدَاثِ كَأَنَّهُمْ جَرَادٌ مُنْتَشِرٌ، مُهْطِعِينَ إِلَى الدَّاعِ يَقُولُ الْكَافِرُونَ هَذَا يَوْمٌ عَسِرٌ»
ความว่า: “ดังนั้นเจ้า (มุหัมหมัด) จงผินหลังให้แก่พวกเขา วันซึ่งผู้เรียกร้อง (อิสรอฟีล) จะร้องเรียกไปสู่สิ่งที่น่ากลัวสยองขวัญ สายตาของพวกเขาจะลดต่ำลงขณะที่พวกเขาออกจากสุสานเสมือนหนึ่งพวกเขาเป็นตั๊กแตนที่บินว่อนรีบวิ่งไปยังผู้เรียกร้องพวกปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่าวันนี้เป็นวันที่ลำบากยิ่ง”
(อัลเกาะมัร : 6-8)
2. อัลลอห์ได้ตรัสว่า
«وَنُفِخَ فِي الصُّورِ فَصَعِقَ مَنْ فِي السَّمَاوَاتِ وَمَنْ فِي الأرْضِ إِلا مَنْ شَاءَ اللَّهُ ثُمَّ نُفِخَ فِيهِ أُخْرَى فَإِذَا هُمْ قِيَامٌ يَنْظُرُونَ»
ความว่า: “และแตรสังข์ได้ถูกเป่าขึ้น แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน จะล้มลงตายเว้นแต่ผู้ที่อัลลอห์ประสงค์ จากนั้นสังข์ได้ถูกเป่าขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนมองดู”
(อัซซุมัร อายะห์ที่ 68)
3. อัลลอห์ได้ตรัสว่า
«وَيَوْمَ يُنْفَخُ فِي الصُّورِ فَفَزِعَ مَنْ فِي السَّمَاوَاتِ وَمَنْ فِي الأرْضِ إِلا مَنْ شَاءَ اللَّهُ وَكُلٌّ أَتَوْهُ دَاخِرِينَ»
ความว่า: “และจงรำลึกวันที่สังข์จะถูกเป่าขึ้นดังนั้นผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและผู้ที่อยู่ในแผ่นดินจะตื่นตระหนกเว้นแต่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทั้งหมดได้มาหาพระองค์ในสภาพผู้ถ่อมตน”
(อันนัมล์ อายะห์ที่ 87)
**ระยะเวลาห่างระหว่างเป่าแตรสังข์ครั้งแรกกับการเป่าครั้งที่สอง**
จากอบูฮุร็อยเราะห์ เราะฎิยัลลอห์ อันฮุ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอห์ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«مَا بَيْنَ النَّفْخَتَيْنِ أَرْبَعُونَ» قَالُوا : يَا أَبَا هُرَيْرَةَ أَرْبَعُونَ يَوْمًا ؟ قَالَ : أَبَيْتُ ، قَالُوا : أَرْبَعُونَ شَهْرًا ؟ قَالَ : أَبَيْتُ ، قَالُوا : أَرْبَعُونَ سَنَةً ؟ قَالَ : أَبَيْتُ. (متفق عليه)
ความว่า: “ระยะเวลาระหว่างการเป่าแตรสังข์ครั้งแรกกับครั้งที่สอง คือ 40″
-ผู้คนจึงถามอบูฮูร็อยเราะห์ว่า โอ้ท่านอบูฮูร็อยเราะห์ 40 วันใช่ไหม?
-อบูฮูร็อยเราะห์กล่าวว่า ฉันปฏิเสธไม่ตอบ ผู้คนจึงถามท่านอีกว่า 40 เดือนเดือนใช่ไหม ?
*อบูฮูร็อยเราะห์กล่าวว่า ฉันปฏิเสธอีก ผู้คนจึงถามท่านอีกว่า 40ปี ใช่ไหม?
ท่านกล่าวว่า ฉันปฏิเสธอีกครั้ง” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ 4935 ,มุสลิม หมายเลขหะดีษ 2955 สำนวนรายงานนี้เป็นของท่าน)
[เมื่อใดวันกิยามะห์จะบังเกิด]
1. จากท่านอบูฮุร็อยเราะห์ เราะฎิยัลลอห์ อันฮุ กล่าวว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอห์ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า
«إِنَّ طَرْفَ صَاحِبِ الصُّورِ مُذْ وُكِّلَ بِهِ مُسْتَعِدٌّ يَنْظُرُ نَحْوَ الْعَرْشِ مَخَافَةَ أَنْ يُؤْمَرَ قَبْلَ أَنْ يَرْتَدَّ إِلَيْهِ طَرْفُهُ ، كَأَنَّ عَيْنَيْهِ كَوْكَبَانِ دُرِّيَّانِ» (أخرجه الحاكم)
ว่า: “แท้จริงริมฝีปากของผู้มีหน้าที่เป่าแตรสังข์อยู่ในสภาพพร้อมเป่า นับตั้งแต่ท่านได้ถูกมอบหมายรับหน้าที่นี้โดยสายตาของท่านจะทอดมองยังบัลลังก์ของอัลลอห์อยู่ตลอด เนื่องจากเกรงว่าจะถูกบัญชาให้ทำการเป่าแตรสังข์ในขณะที่ท่านกระพริบตาชั่วขณะ ดวงตาทั้งสองของท่านมีประกายแววเสมือนดวงดาว” (เป็นหะดีษที่เศาะฮีหฺ บันทึกโดย อัลหากิม หมายเลขหะดีษ 8676 โปรดดูหนังสือ อัสสิลสิละห์ อัศเศาะฮีหะห์ หมายเลขหะดีษ 1078)2.
จากท่านอบูฮุร็อยเราะห์ เราะฎิยัลลอห์ อันฮุ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอห์ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
«خَيْرُ يَوْمٍ طَلَعَتْ عَلَيْهِ الشَّمْسُ يَوْمُ الْجُمُعَةِ ، فِيهِ خُلِقَ آدَمُ ، وَفِيهِ أُدْخِلَ الْجَنَّةَ ، وَفِيهِ أُخْرِجَ مِنْهَا ، وَلاَ تَقُومُ السَّاعَةُ إِلَّا فِي يَوْمِ الْجُمُعَةِ» (أخرجه مسلم)
ความว่า: “วันที่ประเสิรฐที่สุดที่ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมา คือวันศุกร์ เพราะเป็นวันที่นบีอาดัมถูกสร้างขึ้นมาในวันนั้นนบีอาดัมถูกนำเข้าสวนสรรค์ อีกทั้งเป็นวันที่ท่านถูกขับออกจากสวรรค์ด้วยและวันกียามะห์จะไม่บังเกิดขึ้นนอกจากในวันศุกร์เท่านั้น”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 854)
ที่มา: มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
Tags: