การถือศีลอดเดือนรอมฏอนเป็นหลักปฏิบัติประการหนึ่ง ซึ่งอิสลามกำหนดให้มุสลิมทุกคนที่ศรัทธาในอัลลอฮฺและมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งชายหญิงต้องถือปฏิบัติเป็นเวลา 29 – 30 วัน ในเดือนรอมฎอน รวมถึงมุสลิมต้องพึงตระหนักกับบทบัญญัติอิสลามที่สำคัญข้อนี้ เพื่อให้บาปที่ผ่านมาของเราจะได้รับการอภัยโทษ

1. จงเชื่อมั่นว่าศีลอดเป็นบัญญัติจากพระเจ้าที่ทรงกำหนดให้ท่านถือศีลอดในเดือนรอมฎอน อัลลอฮฺตรัสว่า...

فَمَن شَهِدَ مِنكُمُ
الشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ
[البقرة :185]

ดังนั้นผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้น

เราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ กล่าวว่า "รอมฎอนได้มาเยือนพวกเจ้าแล้ว เดือนแห่งความประเสริฐ อัลลอฮฺทรงบัญชาให้พวกเจ้าถือศีลอดในเดือนนี้ เดือนที่บรรดาประตูสวรรค์ถูกเปิดอ้า และประตูนรกถูกปิด เดือนที่บรรดามารร้ายชัยฏอนที่ลำพองถูกสวมปลอกคอ สำหรับอัลลอฮฺในเดือนนี้ มีอยู่คืนหนึ่งทีประเสริฐกว่าหนึ่งพันเดือน ผู้ใดที่ถูกห้ามจากความดีของมัน แท้จริงเขาก็จะถูกห้าม(ไม่ได้กำไรชีวิตอะไรเลย) - (บันทึกโดยอะหมัด)

2. ศีลอดเดือนรอมฎอนเป็นหนึ่งในห้าจากรากฐานที่ศาสนาอิสลามถูกสร้างขึ้น จงเชื่อมั่นศรัทธา จงรู้ถึงความสำคัญของการถือศีลอดและสถานะของการถือศีลอดในอิสลาม ดังที่นบี ศ็อลฯ กล่าวว่า...

بُنِيَ الْإِسْلَامُ عَلَى خَمْسٍ
شَهَادَةِ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ
وَأَنَّ مُحَمَّدًا عَبْدُهُ وَرَسُولُهُ
وَإِقَامِ الصَّلَاةِ وَإِيتَاءِ الزَّكَاةِ
وَحَجِّ الْبَيْتِ وَصَوْمِ رَمَضَانَ
[رواه الشيخان]

อิสลามนั้นตั้งอยู่บน 5 ประการด้วยกัน คือ การปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺและนบีมูฮัมมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์ การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด การจ่ายซะกาต การทำฮัจญ์ ณ บัยติลลาฮฺ และการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน

3. จงเชื่อมั่นว่า "การถือศีลอด" ในเดือนรอมฎอนจะเป็นประโยชน์สำหรับท่าน เพราะผู้ที่กำหนดคือพระเจ้าผู้ทรงรอบรู้ว่าอะไรเหมาะสมกับสิ่งที่พระองค์ทรงสรรค์สร้างขึ้นมา อัลลอฮฺตรัสว่า...

أَلاَ يَعْلَمُ مَنْ خَلَقَ
وَهُوَ اللطيف الخبير
[ الملك : 14 ]

พระผู้ทรงสร้างจะมิทรงรอบรู้ดอกหรือ? พระองค์คือผู้ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วนผู้ทรงตระหนักยิ่ง

4. ในการถือศีลอดจงหวัง "รางวัล" จากอัลลอฮฺเท่านั้น อย่ามุ่งหวังสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์ อย่าถือศีลอดเจตนาเพียงเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคหรือเจตนาเพื่อเป็นยารักษาจากโรคที่ประสบอยู่ หรือถือศีลอดเพื่อต้องการควบคุมน้ำหนักหรือลดความปรารถนาของอารมณ์ใคร่ ดังที่อัลลฮฺตรัส ความว่า...

"ผู้ใดปรารถนาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และความเพริศแพร้วของมัน เราก็จะตอบแทนให้พวกเขาอย่างครบถ้วน ซึ่งการงานของพวกเขาในโลกนี้เท่านั้น และพวกเขาจะไม่ถูกริดรอนในการงานนั้นแต่อย่างใด ชนเหล่านั้นพวกเขาจะไม่ได้รับการตอบแทนอันใดในโลกอาคิเราะฮฺ นอกจากไฟนรกและสิ่งที่พวกเขาได้ปฏิบัติไว้ในโลกดุนยาก็จะไร้ผลและสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ก็จะสูญเสียไป (ฮูด : 16-15)

ดังนั้นจงปล่อยวางจากทุกสิ่งทุกอย่างในการถือศีลอด เว้นแต่เพื่ออัลลอฮฺและเพื่อชีวิตหลังความตายเท่านั้น และปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์และคำสั่งของรอซูลตามพระบัญชาของพระองค์

5. หากท่านได้ถือศีลอดในเดือนรอมฎอนด้วยความศรัทธาและหวังในความโปรดปรานของพระองค์ ท่านจะได้รับการอภัยโทษจากบาป ด้วยความเมตตาของพระองค์ ดังหะดีษอาบูฮุรอยเราะห์ ร.ฏ. ท่านนบีกล่าวว่า...

مَنْ صَامَ رَمَضَانَ
إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا
غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ
مِنْ ذَنْبِهِ [رواه الشيخان]

ผู้ใดถือศีลอดด้วยศรัทธามั่นและหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ เขาจะได้รับการอภัยโทษจากความผิดของเขาในอดีต

6. ต้องหลีกเลี่ยงจากบาปใหญ่ทั้งหลายขณะถือศีลอด ท่านนบี ศ็อล ฯกล่าวว่า...

الصَّلَوَاتُ الْخَمْسُ
وَالْجُمْعَةُ إِلَى الْجُمْعَةِ
وَرَمَضَانُ إِلَى رَمَضَانَ
مُكَفِّرَاتٌ مَا بَيْنَهُنَّ
إِذَا اجْتَنَبَ الْكَبَائِرَ
[رواه مسلم]

ละหมาดห้าเวลา และช่วงเวลาจากวันศุกร์หนึ่งถึงวันศุกร์หนึ่ง และช่วงเวลารอมฎอนหนึ่งถึงรอมฎอนหนึ่ง เป็นการไถ่โทษบาปในช่วงเวลาดังกล่าว หากเขาออกห่างจากบาปใหญ่

ที่มา: Farid Azhari