บทบาทของทูตสวรรค์
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ประกอบด้วยดาวนับหลายแสนล้านดวงนี้ ถ้าสิ่งที่ไม่มีชีวิตบางอย่างสามารถเปลี่ยนสภาพของมันได้ เช่น น้ำเปลี่ยนสภาพเป็นไอลอยไปจับตัวเป็นก้อนเมฆและกลับสู่สภาพเป็นน้ำในรูปของฝน ทำไมสิ่งมีชีวิตบางอย่างจะเปลี่ยนสภาพตัวเองไม่ได้
ตัวหนอนแมลงเปลี่ยนแปลงเป็นดักแด้และกลายเป็นผีเสื้อในท้ายที่สุด
ปรากฏการณ์ดังกล่าวต้องการจะบอกมนุษย์ให้รู้ว่าสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่พระเจ้าสร้างมาได้ถูกกำหนดให้มีขั้นตอนของชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในสภาพที่ต่างกัน
ในคำสอนของศาสนา มนุษย์ถูกสร้างมาจากดินและมนุษย์ไม่อาจแปลงร่างได้ แต่ในโลกนี้ยังมีชีวิตเร้นลับที่มองไม่เห็นอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ด้วย นั่นคือญินและทูตสวรรค์(มลาอิกะฮฺ)
คัมภีร์อัลกุรอานให้ข้อมูลแก่มนุษย์ว่าญินเป็นเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างมาจากไฟ มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นมัน แต่มันมองสามารถมองเห็นมนุษย์ สังคมของญินไม่ต่างจากสังคมมนุษย์ที่มีทั้งดีและชั่ว มีเจตนารมณ์เสรีที่จะทำสิ่งดีและสิ่งชั่วได้ ญินชั่วถูกเรียกว่าซาตาน ญินสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลานเช่น งู และสัตว์สี่เท้าเช่นสุนัขได้ นอกจากนี้แล้ว มันยังสามารถเข้าสิงร่างของมนุษย์เพื่อแสดงฤทธิ์เดชตามความต้องการของมัน
ส่วนทูตสวรรค์ถูกสร้างมาจากแสงสว่าง มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นทูตสวรรค์ แต่ทูตสวรรค์มองเห็นมนุษย์และทูตสวรรค์มีหน้าที่รับใช้พระเจ้าในกิจการต่าง ๆ ของจักรวาลที่พระองค์ได้กำหนดไว้โดยไม่ฝ่าฝืนและทูตสวรรค์สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าในสมัยของอับราฮัม ทูตสวรรค์สามองค์ได้แปลงร่างเป็นชายหนุ่มรูปงามสามคนเดินทางไปยังเมืองโซดอมเพื่อช่วยเหลือโลท (ลูฏ) กับผู้ศรัทธาและลงโทษชาวเมืองที่ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับการมีความสัมพันธ์ทางเพศในหมู่ผู้ชายด้วยกัน
ระหว่างทาง ชายหนุ่มทั้งสามได้พบอับราฮัม แต่เมื่อชายหนุ่มทั้งสามปฏิเสธเนื้อลูกวัวย่างที่อับราฮัมนำมาต้อนรับ อับราฮัมจึงตกใจกลัว ต่อเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มทั้งสามคือทูตสวรรค์ที่แปลงร่างมา อับราฮัมจึงคลายความกลัวและความกังวลเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มทั้งสามจะไปช่วยโลทและผู้ศรัทธา
ทูตสวรรค์ทั้งสามที่แปลงร่างเป็นชายหนุ่มสามคนนี้เองที่ทำลายเมืองโซดอมจนจมหายไปในแผ่นดินหลังจากช่วยโลท (ลูฏ) และผู้ศรัทธาออกมาจากเมืองแล้ว
ในสมัยของนบีมุฮัมมัด ทูตสวรรค์ที่ชื่อว่าญิบรีล(กาเบรียล) เป็นผู้นำสาสน์จากพระเจ้ามายังนบีมุฮัมมัด บางครั้ง ทูตสวรรค์ญิบรีลได้แปลงร่างเป็นคนเดินทางที่ใส่เสื้อผ้าขาวสะอาดมานั่งข้างหน้านบีมุฮัมมัดและถามบางสิ่งบางอย่างเพื่อดูว่านบีมุฮัมมัดมีความเข้าใจในศาสนาของพระเจ้าถูกต้องหรือไม่
ประสบการณ์ในการพบญิบรีลครั้งแรกทำให้นบีมุฮัมมัดตกใจกลัว แต่เมื่อผู้มีความรู้ในคัมภีร์โบราณบอกว่านั่นคือทูตสวรรค์องค์เดียวกับที่มาหาโมเสส นบีมุฮัมมัดจึงคลายกังวล
เมื่อนบีมุฮัมมัดเห็นว่าหัวใจของชาวมักก๊ะฮฺเหมือนดินดานที่เมล็ดพันธุ์แห่งอิสลามไม่สามารถงอกเงยได้ ท่านจึงเดินทางไปยังเมืองฏออีฟด้วยความหวังว่าเมล็ดพันธุ์อิสลามอาจเติบโตในหัวใจของคนที่นั่นได้ แต่เมื่อไปถึงที่นั่น หัวหน้าชาวเมืองได้ยุเด็ก ๆ ให้เอาหินไล่ขว้างจนท่านต้องหนีออกจากเมืองในสภาพที่เลือดโชกไปทั้งตัว
ระหว่างที่หลบหนีออกมาจากเมือง ทูตสวรรค์ที่ดูแลภูเขาได้อาสาจะแก้แค้นแทนนบีด้วยการให้ภูเขาพังทลายทับคนในเมืองนี้ แต่นบีมุฮัมมัดปฏิเสธ ท่านบอกทูตสวรรค์ว่าคนเหล่านั้นต่อต้านท่านเพราะพวกเขาไม่รู้ บางทีลูกหลานของชาวเมืองนี้อาจจะรับอิสลามในภายภาคหน้าได้ และสิ่งที่ท่านพูดไว้ก็เป็นจริง เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ชาวเมืองฏออีฟทั้งหมดได้หันมารับอิสลาม
ในการทำสงครามป้องกันการรุกรานบางครั้ง ฝ่ายศัตรูผู้รุกรานมีจำนวนมากกว่าสาวกของนบีมุฮัมมัดหลายเท่า ทูตสวรรค์ได้ถูกส่งมาช่วยรบโดยการปรากฏกายในลักษณะที่ทำให้ศัตรูตกใจกลัวจนต้องถอยหนีไปในขณะที่คนของนบีมุฮัมมัดมองไม่เห็น
นอกจากนี้แล้ว นบีมุฮัมมัดยังบอกให้รู้ว่ามนุษย์ทุกคนมีทูตสวรรค์คอยติดตามบันทึกความดีความชั่วตลอดเวลาทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง ความเชื่อในเรื่องการมีอยู่ของทูตสวรรค์นี้เองที่ช่วยยับยั้งคนไม่ให้ทำความชั่วโดยที่ไม่ต้องมีกฎหมายคอยควบคุม
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก อาจารย์บรรจง บินกาซัน
Tags: