ใช้ชีวิตกับอัลกุรอาน
การจะให้พูดถึงเรื่องราวของอัลกุรอานนั้น ถือเป็นการพูดในเรื่องที่ใหญ่ เพราะเป็นการกล่าวถึงคัมภีร์ที่มีความยิ่งใหญ่ และหากจะ...
การพูดถึงเรื่องราวของอัลกุรอานนั้น ถือเป็นการพูดในเรื่องที่ใหญ่ เพราะเป็นการกล่าวถึงคัมภีร์ที่มีความยิ่งใหญ่ และหากจะมีใครสักคนหนึ่งต้องการพูดถึงคำดำรัสของอัลลอฮฺ แน่นอนว่าชีวิตของเขาทั้งชีวิตก็ไม่อาจที่จะพูดถึงเรื่องราวของมันได้อย่างครบถ้วน แต่ทว่า เราจะขอพูดถึงวิธีทำอย่างไรที่จะทำให้เนื้อหาของอัลกุรอานมีผลต่อวิถีชีวิตของมุสลิม
มีรายงานที่น่าเชื่อถือว่าท่านอุษมาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า...
ความว่า “หากหัวใจของพวกท่านมีความบริสุทธิ์จริง พวกท่านจะต้องโหยหาและไม่มีวันเต็มอิ่มกับคำดำรัสของพระผู้อภิบาลของพวกท่านอย่างแน่นอน”
นั่นเป็นเพราะอัลกุรอาน คือ ดำรัสของอัลลอฮฺ ซึ่งดำรัสของพระองค์นั้นคือคุณลักษณะหนึ่งจากบรรดาคุณลักษณะทั้งหลายของพระองค์
ประการแรก ขอให้ท่านได้พินิจพิจารณาเกียรติที่อัลกุรอานมอบให้กับคนของอัลกุรอาน (นั่นคือผู้ที่อ่าน ฟัง ใคร่ครวญ แล้วนำมาใช้) ซึ่งมีบันทึกในสุนันอัต-ติรมิซี จากหะดีษของท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า...
ความว่า “อัลกุรอานจะมาในวันกิยามะฮฺแล้วกล่าวว่า “โอ้พระผู้อภิบาล ได้โปรดประดับประดาเขาด้วยเถิด” แล้วเขาก็ถูกประดับประดาด้วยมงกุฎแห่งเกียรติ หลังจากนั้นมันก็กล่าวอีกว่า “โอ้พระผู้อภิบาล ได้โปรดประดับประดาเขาอีกเถิด” แล้วเขาก็ถูกประดับประดาด้วยอาภรณ์แห่งเกียรติ หลังจากนั้นมันก็กล่าวอีกว่า “โอ้พระผู้อภิบาล ได้โปรดพึงพอพระทัยต่อเขาเถิด” แล้วเขาก็ได้รับความพึงพอพระทัย” (บันทึกโดยอัต-ติรมิซี หมายเลข 2915 ซึ่งชัยคฺอัล-อัลบานีกล่าวว่าเป็นหะดีษหะสัน ในเศาะฮีหฺ วะเฎาะอีฟ สุนันอัต-ติรมิซี หมายเลข 2915)
จะมีใครที่ดีเลิศที่สุดเยี่ยงท่านได้อีก โอ้ผู้ที่มีความผูกพันกับอัลกุรอาน ท่านนั้นได้รับมงกุฎและอาภรณ์ที่มีเกียรติ และได้ประสบกับความสำเร็จด้วยการได้รับความพึงพอพระทัยจากพระผู้ทรงเมตตา
แน่นอนว่า การมีชีวิตที่ผูกพันอัลกุรอานนั้น ถือเป็นการมีชีวิตที่มีเกียรติ และถือเป็นความโปรดปรานที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ในบรรดาสิ่งที่ถูกสร้างทั้งหลาย และถือเป็นชีวิตที่ดีเลิศที่สุดก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเหมาะสมเป็นที่สุดสำหรับผู้ศรัทธาที่มีความจริงใจต่อตัวเองที่จะต้องมีความจริงจังที่จะให้ตัวเขามีชีวิตที่แท้จริงที่ผูกพันกับอัลกุรอาน และขอให้ท่านได้พินิจพิจารณาการใช้ชีวิตของบรรดาชาวสะลัฟว่าพวกเขามีชีวิตที่ผูกพันกับอัลกุรอานอย่างไร แล้วมาเปรียบเทียบระหว่างการใช้ชีวิตของเรากับพวกเขาในขณะที่เราอ่านอัลกุรอาน
มีคนถามชาวสะลัฟท่านหนึ่งว่า “เมื่อท่านอัลกุรอาน ท่านจะพูดกับตัวเองบ้างไหม?”
ชาวสะลัฟท่านนั้นได้ตอบว่า “จะมีสิ่งใดที่ฉันรักยิ่งไปกว่าอัลกุรอานอีก จนฉันต้องพูดกับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนั้น?”
แท้จริง พวกเขาต่างรู้ดีว่าอัลกุรอานนั้นไม่ได้เป็นเหมือนคำพูดของมนุษย์ ซึ่งพวกเขาต่างมีความเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจต่อความสัจจริงของเนื้อหาของมัน สัญญาทั้งหมดของมันต้องเกิดขึ้นจริง วิธีการนำเสนอที่อัศจรรย์ของมันส่งอิทธิต่อหัวใจ ดังนั้น ชาวสะลัฟจึงหลงใหลดื่มดำกับมันยิ่งนัก จนพวกเขาให้ความสำคัญกับมันเหนือกว่าคำพูดของคนอื่นทั้งหมด เมื่อไรหนอที่เราท่านทั้งหลายจะได้บรรลุถึงสภาพเยี่ยงนั้นด้วย?
ทุกวันถือเป็นโอกาสสำหรับเราในการทบทวนอัลกุรอานให้ยังคงความแม่นยำเป็นลำดับแรก และเป็นโอกาสอีกครั้งที่จะเอาจริงเอาจังในการอ่านอัลกุรอานให้มีผลต่อหัวใจ และสามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพให้ดีขึ้น โดยที่เรามีความปรารถนาที่จะให้พฤติกรรมของเราหลังจากที่ได้อ่านอัลกุรอานนั้นไม่เป็นเหมือนกับพฤติกรรมก่อนการอ่าน และการมีชีวิตของเราที่ผูกพันกับอัลกุรอานนั้นคือการมีชีวิตที่มีความรักใคร่ต่อบรรดาอายะฮฺต่างๆ ของพระผู้ทรงเมตตา พร้อมทั้งให้เกียรติเทิดทูนมัน
หากเดือนรอมฎอนเคยเป็นโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนการเคาะตัมอัลกุรอาน ดังนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับเราที่จะปรับเปลี่ยนความตั้งใจสู่การตะดับบุรหรือพินิจใคร่ครวญอัลกุรอานแทน กระทั่งให้มันมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเรา และทำให้กิจการต่างๆ ของเราปรับเปลี่ยนสู่ทุกๆ สิ่งที่ดีงาม
ท่านจงมองไปยังการใช้ชีวิตของท่านเราะสูลุลลอฮฺ อะลัยฮิศเศาะลาตุ วัสสลาม ซึ่งท่านเป็นผู้ที่ชอบอ่านอัลกุรอานและชอบฟังอัลกุรอานจากคนอื่น และผู้ที่สืบทอดตามหลังท่านมา อย่างท่านอบูบักรฺ และท่านอุมัร ต่างก็เป็นบุคคลที่เคยร้องไห้เพราะอัลกุรอาน และได้ยินเสียงร้องไห้ของพวกเขาจากแถวละหมาดด้านหลัง
อะไรที่ทำให้พวกเขาร้องไห้ ทั้งๆ ที่พวกเขาล้วนเป็นวีรบุรุษกันทั้งสิ้น?
เราเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเราบ้างหรือไม่?
คำตอบของมันก็คือ ขอให้ท่านได้ร่วมใคร่ครวญพร้อมกับฉันต่อบรรดาอายะฮฺที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮฺ ได้ยกย่องสรรเสริญแก่ผู้ที่ดีเลิศที่สุด (นั่นคือท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) และบรรดาผู้ที่รักใคร่เป็นมิตรกับท่านที่ถูกเลือกสรร (นั่นคือบรรดาเศาะหาบะฮฺ) ว่า...
ความว่า “ชนเหล่านั้นคือบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺทรงโปรดปรานพวกเขาให้เป็นนบีที่มีเชื้อสายจากอาดัม และจากเชื้อสายผู้ที่เราบรรทุกไว้ในเรือกับนูหฺ และจากเชื้อสายของอิบรอฮีม และอิสรออีล(นบียะอฺกูบ) และจากเชื้อสายผู้ที่เราได้ชี้แนะทางและเราได้คัดเลือกไว้ เมื่อบรรดาโองการของพระผู้ทรงกรุณาปรานีถูกอ่านแก่พวกเขา พวกเขาจะก้มลงสุญูดและร้องไห้” (สูเราะฮฺ มัรยัม : 58)
ดังนั้น การร้องไห้ถือเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดของผลที่เกิดขึ้นกับหัวใจ และเป็นตัวบ่งชี้ของการมีชีวิตที่แท้จริงด้วยความผูกพันกับอัลกุรอาน ซึ่งฉันมีความปรารถนาที่จะให้ทุกครั้งที่ท่านอ่านอัลกุรอานหรือฟังมัน ให้ท่านมีความรู้สึกว่ามันคือดำรัสของอัลลอฮฺ ผู้ทรงสร้างตัวท่าน ประทานริซกีแก่ท่าน และให้ความโปรดปรานแก่ท่านอย่างมากมาย ขอให้ท่านได้พินิจไตร่ตรองทุกๆ อายะฮฺ หรือให้ดีกว่านั้นให้พินิจไตร่ตรองทุกๆ คำของมัน แล้วท่านก็จะพบว่ามีความมหัศจรรย์บางอย่างเกิดขึ้นในจิตใจของท่าน
เราจะขอนำเสนอวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้เกิดผลและได้รับประโยชน์จากการอ่านอัลกุรอาน ดังนี้
1. พยายามอ่านคำอรรถาธิบายง่ายๆ ในแต่ละอายะฮฺ
โดยเฉพาะอายะฮฺที่ต้องพึ่งคำอรรถาธิบาย (จึงจะมีความเข้าใจ)
2. ทำเสียงให้ไพเราะ
ในขณะที่อ่านอัลกุรอานให้ทำเสียงของท่านให้ไพเราะเท่าที่มีความสามารถที่จะทำได้ ดังที่มีหะดีษได้กล่าวว่า...
ความว่า “ไม่ใช่พวกเรา ผู้ซึ่งไม่อ่านอัลกุรอานด้วยเสียงที่ไพเราะ (ในกรณีที่เขามีความสามารถ)” (บันทึกโดยอัล-บุคอรี หมายเลข 7527)
ท่านอิมามอัน-นะวะวี ได้กล่าวว่า “การอ่านแบบตัรตีล (คือการอ่านโดยเน้นเรื่องการออกเสียงและจังหวะ และค่อยๆ อ่านอย่างตั้งใจ ชัดถ้อยชัดคำ ไม่รีบร้อน) เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการพินิจใคร่ครวญ (ในเนื้อหาของมัน) และอื่นจากนี้”
3. ให้นิ่งเงียบขณะที่ฟังอัลกุรอาน
ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ได้รับประโยชน์จากอัลกุรอาน และไม่ถือเป็นความผิดการที่คนคนหนึ่งจะเลือกฟังนักอ่านที่มีเสียงไพเราะและกินใจ ซึ่งมีชายคนหนึ่งได้ถามท่านอิมามอะหฺมัด บิน หัมบัล เกี่ยวกับการละหมาดในมัสญิดที่ห่างไกลจากหมู่บ้าน ท่านอิมามได้ตอบว่า “ท่านจงพิจารณาดูว่าสิ่งใดที่จะทำให้หัวใจของท่านได้รับประโยชน์มากที่สุด (ก็ให้ท่านสิ่งนั้น)”
4. ให้ทวนอายะฮฺที่สร้างความซาบซึ้งใจหลายๆ ครั้ง
เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่กำลังอ่านอัลกุรอาน เมื่อเขาได้อ่านผ่านอายะฮฺที่มีความซาบซึ้งต่อหัวใจของเขา ให้เขาเก็บเกี่ยวประโยชน์จากมัน โดยการพินิจพิจารณาในความหมายของอายะฮฺนั้น และให้มีความเข้าใจต่อเนื้อหาของมัน แม้ว่าเขาจะต้องใช้เวลาอยู่กับอายะฮฺนั้นเพียงอายะฮฺเดียวก็ตาม ก็ยังเป็นสิ่งที่ดีกว่าการที่เขาอ่านจนจบสูเราะฮฺโดยไม่มีการพินิจใคร่ครวญ
ท่านอบู สุลัยมาน อัด-ดารอนี เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า “บางครั้งฉันได้ยืนละหมาดด้วยการอ่านเพียงอายะฮฺเดียวตลอดช่วงเวลาทั้งห้าคืน และหากไม่เพราะว่าฉันได้ละความคิดบางช่วงออกจากมันแล้วไซร้ ฉันก็คงยังอ่านมันอยู่อีกโดยไม่ผ่านไปยังอายะฮฺอื่นอย่างแน่แท้ และบางทีอายะฮฺอัลกุรอานบางอายะฮฺก็แทบทำให้ความคิดของฉันได้โบยบินไปกับมันเลยทีเดียว”
5. ในขณะที่ท่านกำลังอ่านอัลกุรอาน ให้ท่านคิดว่าท่านคือ ผู้ที่อัลกุรอานได้กล่าวถึง
หลายต่อหลายคนในหมู่พวกเรา ที่ความคิดเช่นนี้ไม่ได้มีในความนึกคิดของเขา จึงทำให้เขาพลาดที่จะได้รับประโยชน์จากมัน
6. พยายามทำให้ตัวของท่านมีส่วนร่วมกับอายะฮฺต่างๆ อยู่ตลอด
เมื่อมีอายะฮฺหนึ่งที่พูดถึงสวรรค์ผ่านตาท่าน ก็ให้ท่านมีความรู้สึกประหนึ่งว่าท่านกำลังอยู่ในบรรยากาศนั้นและได้ลิ้มรสความสุขต่างๆ ของมัน และเมื่อมีอายะฮฺหนึ่งที่พูดถึงนรกผ่านตาท่าน ก็ให้ท่านมีความหวาดหวั่นที่จะเป็นหนึ่งในนั้น และให้ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺจากมัน และเมื่อเรื่องราวต่างๆ ในอดีตที่อัลกุรอานได้เล่าผ่านตาท่าน ก็ให้ท่านนำหัวใจของท่านไปสู่ช่วงเวลานั้น ประหนึ่งว่าท่านกำลังอยู่ในเหตุการณ์เหล่านั้นด้วยตัวเอง โดยให้ทำเช่นนี้ในทุกๆ อายะฮฺ
7. ให้พินิจใคร่ครวญในอายะฮฺที่พรรณนาถึงคุณลักษณะของอัลลอฮฺ
ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่อัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งและมีความยิ่งใหญ่ได้พรรณนาไว้ และเป็นการพรรณนาถึงการสร้างอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เช่น การสร้างบรรดาภูเขา แผ่นดิน ชั้นฟ้า แม่น้ำ และอื่นจากนี้
และจงดูตัวอย่างของอายะฮฺหนึ่งที่มีความยิ่งใหญ่ จากสูเราะฮฺลุกมานว่า...
ความว่า “พระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายโดยปราศจากเสาที่พวกเจ้าจะมองเห็นมันได้ และทรงปักเทือกเขาไว้อย่างมั่นคงในแผ่นดินเพื่อมิให้มันสั่นคลอนไปกับพวกเจ้า และทรงให้สัตว์ทุกชนิดแพร่หลายในมัน (แผ่นดิน) และเราได้ให้น้ำ (ฝน) หลั่งลงมาจากฟากฟ้าและเราได้ให้พืชทุกชนิดงอกเงยออกมาเป็นคู่ ๆ อย่างดีงาม นี่คือการสร้างของอัลลอฮฺ ดังนั้น พวกเจ้าจงแสดงให้ข้า (อัลลอฮฺ) เห็นซิว่า อันใดเล่าที่เขาเหล่านั้นได้สร้างมันขึ้นมา ที่ไม่ใช่พระองค์ แต่ว่าบรรดาผู้อธรรมต่างหากที่อยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง” (สูเราะฮฺลุกมาน : 10-11)
ขอให้ท่านครุ่นคิดถึงการสร้างสรรค์ที่มีความมหัศจรรย์และมีความประณีตนี้
ความว่า “(นั่นคือ) การสรรค์สร้างของอัลลอฮฺซึ่งพระองค์ทรงทำทุกสิ่งอย่างด้วยความประณีต แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงตระหนักดีในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ” (สูเราะฮฺอัน-นัมลุ : 88)
และพึงทราบเถิดว่า การพินิจใคร่ครวญ(ตะดับบุร)นั้นจะนำพาท่านไปสู่ความยิ่งใหญ่ของพระผู้อภิบาลและผู้เป็นเจ้านายของท่าน และจะทำให้ท่านได้เห็นแก่นแท้ของโลกนี้และโลกอาคิเราะฮฺ และจะสร้างความกระจ่างให้แก่ท่านถึงบั้นปลายและที่พำนักของทั้งสองกลุ่ม(ที่เป็นชาวสรรค์และชาวนรก) และจะทำให้ความศรัทธาของท่านเพิ่มพูนขึ้น อีกทั้งยังยกระดับตัวของท่าน และจะทำให้การยืนหยัดของท่านมีความมั่นคง รวมถึงจะทำให้ท่านมีความสมถะต่อการใช้ชีวิตบนโลกนี้ และมีความปรารถนาต่อโลกอาคิเราะฮฺ
ใช่แต่เท่านั้น มันจะยังคลี่คลายความวิตกกังวลของท่าน และทำให้ความเศร้าโศกได้หายไปจากท่าน ช่วยปลอบโยนท่านจากคำครหาของมนุษย์อื่น และทำให้ท่านได้เข้าสวรรค์แห่งโลกนี้ ซึ่งมีคุณค่าอันมากมายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่มา : islamhouse
Tags: