เสื้อคลุมของนบีที่ฝากไว้ให้ชาวยิว
ในเมืองดามัสกัส มีชาวยิวคนหนึ่งเป็นผู้รู้คัมภีร์ทางศาสนา วันหนึ่ง เขาอ่านพบชื่อของนบีมุฮัมมัดอยู่ในคัมภีร์ที่เขาศึกษา ด้วยความไม่ชอบ เขาได้ลบชื่อนั้นออกไป แต่วันรุ่งขึ้น เขาก็พบชื่อของนบีมุฮัมมัดอยู่ในคัมภีร์นั้นอีก เขาจึงลบชื่อนั้นอีก แต่วันที่สาม ชื่อนั้นก็ปรากฏขึ้นอีก เขาจึงคิดว่า “บางที นี่คือสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าศาสนทูตที่แท้จริงได้มาแล้ว ฉันจะเดินทางลงใต้ไปยังเมืองยัษริบ”
หลังจากออกเดินทางรอนแรมมาอย่างยาวไกล ในที่สุด เขาได้มาถึงเมืองยัษริบ เมื่อมาถึงที่นั่น เขาไม่รู้จักใคร ขณะที่เดินเข้ามาใกล้มัสยิด อนัสผู้เป็นสาวกคนหนึ่งของนบีมุฮัมมัดมาถึงพอดี เขาจึงบอกอนัสว่า “นี่ พ่อหนุ่ม ช่วยพาฉันไปหานบีมุฮัมมัดหน่อยสิ”
อนัสได้พาชาวยิวคนนั้นเข้าไปในมัสยิดที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังโศกเศร้าอาดูร ในเวลานั้น อบูบักร์ผู้สืบอำนาจการปกครองต่อจากนบีมุฮัมมัดนั่งเป็นประธานในที่ชุมนุม ชายชราชาวยิวคนนั้นได้ตรงไปหาเขาโดยคิดว่าเขาต้องเป็นนบีมุฮัมมัดอย่างแน่นอน เมื่อถึงตัว เขาได้กล่าวว่า “โอ้ศาสนทูตผู้ได้รับการคัดเลือกของพระเจ้า ชายชราที่หลงทางคนหนึ่งมาหาท่าน ขอความสันติจงมีแด่ท่าน”
เมื่อได้ยินฉายาที่ชาวยิวคนนั้นใช้เรียกนบีมุฮัมมัด ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างพากันน้ำตาไหลพราก ชาวยิวคนนั้นจึงประหลาดใจจนทำอะไรไม่ถูก เขากล่าวว่า “ฉันเป็นคนต่างถิ่นและเป็นชาวยิว ฉันไม่รู้ถึงพิธีกรรมแห่งความศรัทธาของอิสลาม ฉันพูดอะไรผิดหรือ? ฉันควรจะนิ่งเงียบใช่ไหม? หรือนี่คือการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา? พวกท่านร้องไห้ทำไม? ถ้ามันเป็นพิธีกรรม ฉันก็ไม่เคยรู้มาก่อน”
อุมัรฺ สาวกคนสนิทอีกคนหนึ่งของนบีมุฮัมมัดได้บอกเขาว่า “เราไม่ได้ร้องไห้เพราะสิ่งที่ท่านได้พูดหรือทำไป แต่ท่านต้องได้ยินเรื่องราวเศร้าโศกที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์หนึ่งที่ผ่านมาอย่างแน่นอน นั่นคือการจากโลกนี้ไปของมุฮัมมัด ศาสนทูตของพระเจ้า ดังนั้น เมื่อเราได้ยินชื่อของนบี ความเศร้าโศกจึงประเดประดังเข้ามาในหัวใจของพวกเราอีกครั้งหนึ่ง”
ทันทีที่ชายชราชาวยิวได้ยินเรื่องนี้ เขาได้ฉีกเสื้อผ้าของเขาด้วยความโศกเศร้าอาลัยตามประเพณีของชาวยิว เมื่อเขาคลายความโศกเศร้าลงบ้าง เขาจึงกล่าวว่า “พวกท่านทำอะไรให้ฉันหน่อยได้ไหม อย่างน้อยที่สุด ขอให้ฉันได้มีเสื้อคลุมของนบีไว้ ถ้าฉันไม่สามารถเห็นเขาได้ ขอให้ฉันมีเสื้อคลุมของเขาไว้กับตัวก็ยังดี”
อุมัรฺตอบว่า “ฟาฏิมะฮฺลูกสาวของนบีเท่านั้นที่สามารถให้เสื้อคลุมของนบี” อะลีลูกเขยของนบีมุฮัมมัดกล่าวว่า “แต่นางไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้นาง” ดังนั้น พวกเขาจึงไปที่บ้านของนางและเคาะประตูบ้านเพื่ออธิบายถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการ
ฟาฏิมะฮฺตอบว่า “พ่อฉันพูดอะไรไปแล้วเป็นจริงทุกอย่าง ก่อนหน้าพ่อเสียชีวิต พ่อได้กล่าวว่า “จะมีคนเดินทางคนหนึ่งมาที่บ้าน คนผู้นั้นเป็นผู้ที่รักฉันและเป็นคนดีด้วย แต่เขาจะไม่เห็นฉัน จงให้เสื้อคลุมที่มีรอยปะชุนตัวนี้แก่เขาเหมือนกับว่าฉันให้เขา จงดูแลเขาแทนฉันด้วยดีและฝากสลามจากฉันถึงเขาด้วย”
เมื่อฟาฏิมะฮฺนำเสื้อคลุมของนบีมาให้ ชาวยิวคนนั้นได้สวมเสื้อคลุมด้วยตัวเองและขอให้คนพาเขาไปที่หลุมฝังศพของนบี เมื่อเขาถูกพาไป เขาได้พบว่าที่บ้านของนบีนี้เองที่นบีมุฮัมมัดได้หายใจเป็นครั้งสุดท้ายและศพของท่านถูกฝังที่นั่น
โดย อาจารย์บรรจง บินกาซัน
Tags: