ทนายฮานีฟ หยงสตาร์ เลขาธิการมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ได้รับเรื่องจากผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลปัตตานี (มีตั้งแต่อนุบาล-ป.6) ถึงการที่เด็กนักเรียนถูกกระทำโดยการทำร้ายจิตใจต่างๆนานาจากครูภายในโรงเรียนว่า เป็นการกระทำที่ร้ายแรงมาก มีการทำโทษเด็กสร้างความอับอาย ทำร้ายจิตใจเพียงเพราะเด็กนักเรียนใส่ฮิญาบ

ทนายฮานีฟ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกฎหมายว่า แม้มีกฎระเบียบใหม่ออกมาว่า โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในธรณีสงฆ์การแต่งกายให้เป็นไปตามสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างวัดกับสถานศึกษา ดังนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนต้องแสดงสัญญาหรือข้อตกลงที่ทำไว้กับวัดออกมา #ซึ่งสัญญาและข้อตกลงนี้ต้องมีก่อนการเริ่มสร้างโรงเรียน ถ้าหากมีหลักฐานจริงรัฐบาลต้องเข้ามาหาทางแก้ไขจะทำอย่างไรกับนักเรียนเหล่านี้ที่นับถือศาสนาอิสลาม เพราะรัฐมีหน้าที่จัดการศึกษาให้คนในประเทศอย่างเท่าเทียมกัน มิเช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะมุสลิมก็คนไทยเหมือนกัน

ทามไลน์ จากปากคำผู้ปกครองโรงเรียนอนุบาลปัตตานี

วันที่ 11 มิถุนายน 2561 ครูประจาชั้น ป.2/1 เรียก เด็กหญิงอัซราและเด็กหญิงซัลซาบี บอกว่า “พรุ่งนี้ห้ามคลุมฮิญาบ” ทาให้เด็กทั้งสองเกิดความกลัว แต่ก็ยังคลุมฮิญาบ ในวันต่อไปจนถึงปัจจุบัน

วันที่ 13 มิถุนายน 2561

- คาบวิชาภาษาอังกฤษ นางสาวฉัตรทิชา คารวะพงษ์ ได้ทาการสอนนักเรียนชั้น ป.5/5 ในคาบที่ 6

ในขณะที่ทาการสอนนั้น ได้เรียกเด็กนักเรียนที่คลุมฮิญาบจานวน 3 คน ในทั้งหมด 5 คน ออกมา
หน้าชั้นเรียน แล้วพูดจาดูถูก เสียดสีประจานนักเรียนต่อหน้าเพื่อนๆ ว่าแต่งตัวเหมือนแม่ค้าขาย ปลา ขายผลไม้ ทาให้เด็กเกิดความอับอาย การกระทาของครูคนนี้ถือได้ว่าไม่มีจรรยาบรรณของ ความเป็นครู

เด็กนักเรียนเล่าเพิ่มเติมว่า

นร.ทั้ง 3 คน คือ ด.ญ. ณดา ดือเร๊ะ, ด.ญ.นัสรีนี กาหม๊ะ และ ด.ญ. ฟาฎีลา หะมิ คุณครูพูดต่อ หน้าเพื่อนนร.ว่า “ ทั้ง 3 คนสวมผ้าคลุมไม่เหมือนกัน (พร้อมกับชี้หน้าทีละคน) คนนี้เหมือน แม่ค้าขายผัก คนนี้ขายปลา คนนี้ขายผลไม้ “ จนทาให้เพื่อนทั้งห้องหัวเราะเยาะ และถูกล้อ ใน วันถัดไป ด.ญ. ณดา ถูกเพื่อนชื่อด.ญ. ชวิศา – ลูกครูในรร. สอน อ.1 มาดึงผ้าคลุมฮิญาบ และล้อ ว่า ‘แม่ค้าขายปลาๆๆ’ เมื่อเพื่อนคนอื่นๆ ได้ยิน ก็ล้อด.ญ.ณดา ว่า ‘แม่ค้าขายปลาๆๆ’ หลังจาก เข้าแถว ด.ญ.ณดา ดือเระ กับด.ญ.ณดา สะอะ ได้บอกเรื่องถูกล้อ กับคุณครูประจาชั้น ชื่อ ครู แพรววนิดา (ครูทราย) ครูทรายจึง บอกเพื่อนนร.ที่ล้อด.ญ.ณดา ให้ขอโทษเพื่อน ไม่อย่างนั้น จะ ถูกทาโทษ

- มีการเผยแพร่ประกาศราชกิจจานุเบกษาว่าด้วยระเบียบกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการแต่งกาย นักเรียนในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในที่ธรณีสงฆ์ให้เป็นข้อตกลงระหว่างโรงเรียนกับวัด สร้างความกังวล ให้แก่ผู้ปกครอง และผู้ที่เป็นห่วงเป็นใย สถานการณ์ในพื้นที่ เป็นอย่างมาก

วันที่ 15 มิถุนายน 2561 วันหยุด ฮารีรายอ อิดิ้ลฟิตรี

วันที่ 16-17 มิถุนายน 2561 ผู้อานวยการโรงเรียนโทรศัพท์แจ้งผู้ปกครองห้ามเด็กไม่ให้คลุมฮิญาบไป โรงเรียนในวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561

วันที่ 18 มิถุนายน 2561

- นักเรียนมุสลิมที่คลุมฮิญาบถูกครูกันติยาเรียกออกจากแถวหน้าเสาธงไปประชุมที่ห้องประชุมบัวชมพู กับผอ.ประจักษ์ ชูศรี และรองผอ.ศุภผล จุลละนันทน์
ผอ. แจ้งว่า ‘กฎกระทรวงฯออกมาแล้ว ให้นร.แต่งตัวตามกฎระเบียบ ร.ร. ถ้าไม่ใส่ตามระเบียบ ต้องไปหาที่เรียนที่อื่น’
ครูกันติยา บอกว่า ‘ถ้าจะใส่ก็ได้ค่ะ แต่ ต้องย้ายร.ร.’
ผอ.ยังถามต่อ และให้เด็กนักเรียนยกมือขึ้น ว่า “ใครต้องการลาออกบ้าง” ซึ่งมีเด็กยกมือขึ้น 1 คน
พร้อมชี้แจงว่า หากนักเรียนห้องพิเศษต้องการลาออก โรงเรียนจะคืนค่าใช้จ่ายค่าห้องพิเศษให้

- โรงเรียนได้โทรศัพท์ขอเชิญผู้ปกครองแทนการทำหนังสือเชิญ โทรศัพท์แจ้งให้ผู้ปกครองที่ นักเรียนคลุมฮิญาบไปพบเพื่อชี้แจงให้นักเรียนปฏิบัติตามระเบียบเรื่องการแต่งกายของโรงเรียน และหากไม่ทาจะดาเนินการลงโทษตามขั้นตอน คือตักเตือน ทาทัณฑ์บน และผู้อานวยการมีสิทธิ เด็ดขาดในการใช้ระเบียบบังคับ มีเพียงผู้ปกครองครอบครัวเดียว ที่ไปพบ และรับฟังตาชี้แจงจาก ผอ.

วันที่ 19 มิถุนายน 2561

เด็กนักเรียนที่คลุมฮิญาบ ยังคงถูกเรียกไปพบระหว่างเข้าแถวหน้าเสาธง ครูบอก “สัปดาห์นี้ มาตรการตักเตือน หักคะแนนความประพฤติ สัปดาห์ที่ 4 ให้ย้าย ร.ร.
สัปดาห์ที่ 5 งดการเรียนการสอน

ที่มา          White news