เปิดใจครอบครัว "นักโทษประหาร" เรือนจำไม่แจ้งล่วงหน้า เสียใจไม่มีโอกาสได้สั่งเสียร่ำลา
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สัมภาษณ์ครอบครัวนักโทษที่ถูกประหารชีวิต เผย ไม่มีโอกาสได้สั่งเสียร่ำลา เสียใจที่เป็นศพแรกในรอบ 9 ปี
(19 มิ.ย. 61) หลังจากที่กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารนักโทษเด็ดขาด นายธีรศักดิ์ หลงจิ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาฆ่า นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมวัดควนวิเศษมูลนิธิ อ.เมือง จ.ตรัง อย่างทารุณโหดร้าย เพื่อชิงทรัพย์ เหตุเกิดภายในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 (เขาแปะช้อย) เทศบาลนครตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 55 หลังกรมราชทัณฑ์ประหารชีวิตนายธีรศักดิ์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ล่าสุด เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายธีรศักดิ์ นักโทษเด็ดขาด คดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณ ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินประหารด้วยการฉีดยา เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 15.00 น. ซึ่งมารดาได้เดินทางไปรับศพที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านเกิด
คาดจะเดินทางถึงจังหวัดตรัง ในเวลาประมาณ 19.00 น. โดยบรรยากาศที่บ้านพบว่า มีญาติพี่น้องมารอรับศพเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เหลือก็กำลังทยอยเดินทางมาสมทบ พร้อมกับมีการจัดเตรียมเต็นท์ โต๊ะ และอาหาร ไว้รอรับญาติที่จะเดินทางมาร่วมประกอบพิธีศพในค่ำวันนี้ ทั้งหมดอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ
ด้านน้องสาวของนายธีรศักดิ์ กล่าวว่า ทางครอบครัวแม้จะทำใจมาตลอดเพราะศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ก็ตัดสินประหารชีวิต แต่เสียใจและทำใจไม่ได้ เพราะไม่ได้แจ้งญาติให้ไปดูใจ หรือร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย และเสียใจที่พี่ชายมาถูกประหารชีวิตเป็นรายแรกในรอบ 9 ปี เดิมครอบครัวตั้งใจจะเดินทางไปเยี่ยมในวันนี้ เนื่องจากพี่ชายส่งจดหมายมาขอเงินจำนวน 2,000 บาท พร้อมวุฒิการศึกษา และทางพี่สาวก็ส่งไปให้แล้ว
“…ตอนบ่ายเมื่อวาน มีการแจ้งมาว่า ให้แม่ของตน ไปรับศพของลูกชาย แม่ก็ตกใจร้องไห้ และแม่ได้ขึ้นเครื่องไปเมื่อวาน (18 มิ.ย.) ตอน 6 โมงเย็น” น้องสาวของนายธีรศักดิ์กล่าว
ส่วนพี่สาวของนายธีรศักดิ์กล่าวว่า "ไม่ได้มีแจ้งให้ญาติทราบล่วงหน้า มาบอกตอนที่ประหารไปเเล้ว หากทางกรมราชทัณฑ์ได้แจ้งล่วงหน้าบ้างทางครอบครัวก็จะขึ้นไปดูใจเป็นครั้งสุดท้าp ตนเองจะสนิทกับน้องชายมากที่สุด มีอะไรน้องชายก็จะเขียนจดหมายมาหาเสมอ การตัดสินประหารชีวิตตนรับได้ถ้าไม่ใช่น้องชายของตนคนเดียว แต่นี้ตลอด 9 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ต้องโทษคนใดถูกตัดสินประหารชีวิต มีเพียงน้องชายตนคนแรก ทำ.shตนเองรับไม่ได้เลย ซึ่งตอนนี้แม่ พร้อมญาติๆและภรรยาของผู้ตายก็กำลังเดินทางกลับจาก กทม.พร้อมกับศพพี่ชาย ซึ่งคาดว่าจะ เดินทางมาถึงจังหวัดตรังค่ำคืนนี้ จากนั้นก็จะประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามและจะทำพิธีฝังศพภายในคืนนี้"
ที่มา www.sanook.com
Tags: