สาวโพสต์เตือน!ทำงานหนัก-นอนน้อย ทำโรคกำเริบเสี่ยงตาย!
จากกรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Opor Sue ระบุ ปอมีเรื่องมาแชร์ ว่าด้วยเรื่องทำงานหนัก เครียด นอนไม่พอ พร้อมเผยเรื่องราวการเป็นคนแข็งแรง แต่เมื่อวันหนึ่งทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอจนมีอาการป่วยไข้ ผื่นขึ้นตามร่างกาย จนคุณหมอแจ้งว่าถ้าไม่พออาจตายได้! ทำให้กลายเป็นกระแสแชร์ต่อเพื่อเป็นอุทาหรณ์ไปทั่วสังคมออนไลน์นั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Opor Sue หรือคุณปอ วิศวกรฝ่ายขายและพิธีกรงานกีฬาแบบฟรีแลนซ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ เดลินิวส์ออนไลน์ิ เผยว่า จริงๆแล้วเป็นคนที่แข็งแนงมาก เล่นกีฬาก็เป็นนักกีฬาโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยตลอด จนเรียนจบทำงานก็ทำงานหนัก เครียดตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา จนมาถึงช่วง 2-3 ปีล่าสุดที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย หอบงานกลับไปทำที่บ้าน วันเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่มีงานจากงานประจำก็ไปรับงานเป็นพิธีกร นอกจากนี้หลายๆครั้งที่ต้องขับรถจากจ.ระยองไปกทม.และกลับมาที่จ.ระยอง ซึ่งแต่ก่อนขับไปกลับได้สบายมาก
แต่กลายเป็นว่าช่วงปีกว่าๆที่ผ่านมา เริ่มป่วย มีผื่นขึ้นเต็มตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ บางครั้งก็เป็นผื่นใหญ่ บวม บางวันก็หน้าบวม เท้าบวม ความดันต่ำและวูบบ่อย ขนาดที่ต้องจอดรถเพื่อนอนทุกปั๊ม ทุกด่านเก็บเงิน เวลาทำงานก็มึนๆเบลอๆ เลยรู้สึกว่าร่างายของเราเริ่มไม่ปกติ เมื่อไปหาคุณหมอก็บอกว่าต้องนอนและเครียดให้น้อยลง ถ้าไม่นอนให้เพียงพออาจตายได้ เพราะเวลาที่ร่างกายเราไม่ได้พักผ่อนสะสมเป็นระยะเวลานาน อาการแพ้หรือโรคต่างๆก็จะกำเริบขึ้นมา ซึ่งของเราพอเป็นผื่นก็พยายามไปหาคุณหมอด้านผิวหนัง ต้องกินยาแก้แพ้ต่อเนื่องติดต่อกันเพื่อคุมไม่ให้ผื่นขึ้นทั่วตัว หมอบอกว่าปล่อยไว้นาน ถ้าไม่ดูแลตัวเองอีกอาจจะเป็นถึงโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง(SLE) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า
ตอนนั้นก็ตกใจ ไม่เคยคิดว่าจากที่เป็นแข็งแรงเล่นกีฬา ไปปีนเขา เดินป่า ทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์แต่กลับต้องมาเป็นแบบนี้ เคยอ่านแต่ข่าว ไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับตัวเองได้ แต่พอหลับจากปรับพฤติกรรม ทำงานหนักเหมือนเดิม แต่ว่ารู้จักการจัดเวลาให้ร่างกายได้พักผ่อนมากขึ้น จนตอนนี้ใช้เวลารักษาและปรับพฤติกรรมตัวเองนานเป็นปี อาการทั้งหมดก็หายเป็นปกติแล้ว เลยอยากให้เรื่องของเราเป็นอุทาหรณ์กับคนอื่นๆที่ไม่ต้องวัวหายล้อมคอก เพราะร่างกายเรากว่าจะใช้เวลาฟื้นฟูได้ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นดูแลร่างกายและรักตัวเองให้มากๆดีกว่าค่ะ
ที่มา เดลินิวส์
Tags: