นายโทเมอร์ บาร์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของอิสราเอลเปิดเผยว่าได้โจมตีทางอากาศใส่ซีเรีย เพื่อโจมตีกองทัพอิหร่านในซีเรีย ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีซีเรียที่รุนแรงที่สุดของอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามเลบานอนใน ปี 1982 หลังจากเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ของอิสราเอลถูกซีเรียยิงตก แต่นักบินทั้ง 2 คนสามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินออกมาได้

ชนวนความขัดแย้งรอบนี้มีขึ้นหลังจากที่อิสราเอลขับไล่โดรนของอิหร่านที่บินเข้าไปสอดแนมพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล จากนั้นจึงมีคำสั่งให้โจมตีทางอากาศกองทัพอิหร่านในซีเรีย และถูกตอบโต้จนทำให้เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ตก 1 ลำ ส่งผลให้อิสราเอลบุกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ โดยนายเบนจามินเนทัน ยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลต้องการสันติภาพ แต่จะปกป้องตัวเองจากการโจมตีใดๆ

ด้านกองทัพซีเรียและพันธมิตรออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า โดรนของอิหร่านปฏิบัติหน้าที่ในการสอดแนมกลุ่มก่อการร้ายไอเอสตามปกติ และไม่ได้ละเมิดอำนาจอธิปไตยของอิสราเอล

ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีมองว่า การที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศซีเรียไม่ใช่เรื่องผิดปกตินัก แต่การที่เครื่องบินขับไล่ของอิสราเอลถูกยิงตก เป็นการยกระดับสถานการณ์ขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากที่ผ่านมา อิสราเอลมักโจมตีคลังอาวุธในซีเรีย เพื่อขัดขวางไม่ให้อิหร่านส่งขีปนาวุธผ่านซีเรียไปให้กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนได้ แต่เมื่อนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากอิหร่านในการสู้กับกลุ่มติดอาวุธในประเทศมากขึ้น ทำให้อิหร่านยิ่งมีบทบาทในซีเรียมากขึ้นด้วย จนมีการตั้งฐานทัพอิหร่านในซีเรีย

สำนักข่าวอัลจาซีราระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการปะทะกันระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สงครามซีเรียเริ่มต้นขึ้นในปี 2011 และถือเป็นสัญญาณเตือนว่า ซีเรียและพันธมิตรจะไม่ทนกับการโจมตีอิสราเอลอีกต่อไป

ที่มา: reuters / VoiceTV