นักวิจัยพบซากฟอสซิลมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุด อายุเกือบ 2 แสนปี นอกทวีปแอฟริกาในถ้ำประเทศอิสราเอล บ่งบอกถึงการอพยพของมนุษย์ออกจากทวีปแอฟริกาที่เร็วกว่าที่เคยคาดไว้นับแสนปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักวิจัยประกาศว่าได้ค้นพบซากฟอสซิลอายุระหว่าง 177,000 ถึง 194,000 ปี ซึ่งมีลักษณะที่บ่งชี้ว่าเป็นร่องรอยเก่าแก่ที่สุดของบรรพบุรุษมนุษย์ยุคใหม่ หรือ โฮโมเซเปียนส์ โดยฟอสซิลที่พบเป็นชิ้นส่วนของกระดูกขากรรไกรบนที่มีฟันติดอยู่ 7 ซี่ คาดว่าเป็นกระดูกของคนวัยหนุ่มสาว ส่วนเพศยังไม่ชัดเจน ซึ่งถูกขุดพบในถ้ำมิสลิยา ในประเทศอิสราเอล ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกบนเทือกเขาคาร์เมล ห่างจากเมืองไฮฟา ประมาณ 12 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ยังพบใบมีดและเครื่องมือหินต่างๆ ที่ทำขึ้นมาอย่างซับซ้อน เตาผิง และกระดูกสัตว์ที่ถูกเผาภายในถ้ำ หลักฐานดังกล่าวลบล้างความเข้าใจแต่เดิมที่ว่า เผ่าพันธุ์มนุษย์เริ่มการอพยพครั้งใหญ่ออกจากแอฟริกาครั้งแรก เมื่อราว 1 แสนปีที่แล้ว ก่อนจะแยกย้ายกันไปตั้งถิ่นฐานตามส่วนต่าง ๆ ของโลก โดยก่อนการนี้ ฟอสซิลมนุษย์ยุคใหม่ที่เคยถูกค้นพบในทวีปแอฟริกา มีอายุราว 90,000 ถึง 120,000 ปี

ด้านศาสตราจารย์อิสราเอล เฮิร์ชโควิซต์ นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ ระบุว่า การค้นพบครั้งใหม่นี้สนับสนุนความคิดที่ว่า มนุษย์อพยพออกจากทวีปแอฟริกาผ่านทางตอนเหนือของหุบเขาไนล์ และชายฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และไม่ใช่เส้นทางทางใต้ของช่องแคบบับเอลมันเดบ และชายฝั่งทางใต้ของซาอุดีอาระเบีย รวมถึงอินเดีย และเอเชียตะวันออก นอกจากนี้ ศาสตราจารย์เฮิร์ชโควิซต์ ยังเชื่ออีกว่า สายพันธุ์มนุษย์โฮโมเซเปียนส์ อาจย้อนไปได้ไกลถึง 500,000 ปีก่อนด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ สายพันธุ์ดังกล่าว คณะผู้วิจัยคาดว่าน่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับมนุษย์ในปัจจุบัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะมีดีเอ็นเอที่สืบทอดจากบรรพบุรุษที่นับย้อนไปได้ไกลที่สุดราว 60,000 ปีก่อนเท่านั้น

ที่มา: PPTV