อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโกและครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตของนางซูจี บอกว่าเขาไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสำนึกดีชั่วได้ในคณะที่ปรึกษาพิเศษชุดนี้ พร้อมกันนั้นเขายังกล่าวหานางซูจี ว่าตอบโต้อย่างกราดเกรี้ยว ต่อเสียงเรียกร้องของเขาที่ขอให้ปล่อยผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ 2 คนซึ่งถูกจับกุมขณะกำลังรายงานข่าววิกฤตในรัฐยะไข่

วา โล วัย 31 ปี และจอ โซ อู วัย 27 ปี ถูกจับกุมเมื่อเดือนธันวาคม และมีสิทธิติดคุก 14 ปี ภายใต้กฎหมายความลับทางราชการ (Official Secrets Act) ตามข้อกล่าวหาครอบครองเอกสารลับสุดยอด ที่เชื่อกันว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารในรัฐยะไข่

การลาออกของ ริชาร์ดสัน มีขึ้นหลังจากพม่าและบังกลาเทศ พลาดเส้นตายเมื่อวันที่ 23 มกราคม ในการเริ่มต้นกระบวนการอันซับซ้อนและโต้เถียงกันไปมา ในการส่งผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายแสนคนกลับสู่พม่า

ชาวโรฮิงญาเกือบ 690,000 คนหลบหนีการปราบปรามของกองทัพพม่า ข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผานมา ขณะที่สหประชาชาติ และสหรัฐฯ กล่าวหาทหารและม็อบชาวพุทธหัวรุนแรงว่ากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยมุสลิม

ในพม่า ชาวโรฮิงญาถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ แม้ว่าพวกเขาจะพักอาศัยอยู่ในพม่ามาหลายชั่วอายุคนแล้ว

“มันคือความผิดหวังใหญ่หลวงที่ผมต้องประกาศลาออกจากคณะที่ปรึกษาว่าด้วยเรื่องรัฐยะไข่” ถ้อยแถลงจากสำนักงานของนายริชาร์ดสันระบุ 3 วันหลังการเจรจาในพม่า “ดูเหมือนว่าคณะที่ปรึกษากำลังกลายเป็นทีมเชียร์ลีดเดอร์สำหรับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสวนทางกับข้อเสนอเปลี่ยนแปลงนโยบายที่จำเป็นสำหรับรับประกันสันติภาพ เสถียรภาพและพัฒนาการในรัฐยะไข่”

ชาวโรฮิงญาถูกปฏิเสธสิทธิพลเมืองมาหลายทศวรรษในระบบเลือกปฏิบัติที่จำกัดสิทธิและความเคลื่อนไหวของพวกเขาในพม่าอย่างเข้มข้น

อดีตผู้ว่าการรัฐของสหรัฐฯยอมรับว่ากองทัพพม่ายังคงมีอำนาจมหาศาล แต่ระบุว่าการที่ อองซานซูจี ขาดจริยธรรมของผู้นำ คือประเด็นสำคัญในความกังวลใหญ่หลวงของเขา