นายกฯ บินาลี ยิลดิริม ของตุรกีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม ว่าเป้าหมายของตุรกีคือเพื่อกำจัดพวกนักรบชาวเคิร์ดพ้นจากพื้นที่ชายแดน และตั้ง "เขตปลอดภัย" ระยะ 30 กิโลเมตรขึ้นภายในซีเรีย

เมื่อวันเสาร์ กองทัพตุรกีเริ่มเปิดปฏิบัติการช่อมะกอก โจมตีพวกกองกำลังติดอาวุธ หน่วยพิทักษ์ประชาชนชาวเคิร์ดในซีเรีย (วายพีจี) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพันธมิตร กองทัพประชาธิปไตยซีเรีย (เอสดีเอฟ) ที่สหรัฐหนุนหลัง โดยตุรกีส่งเครื่องบินรบเปิดฉากโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ถล่มทางบกใส่ภูมิภาคอาฟรินของซีเรีย โจมตีทั้งวายพีจีและนักรบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เมื่อเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย

คำแถลงของตุรกีกล่าวไว้ด้วยว่า ปฏิบัติการนี้จะกระทำ "ด้วยความเคารพบูรณภาพเหนือดินแดนของซีเรีย"

สื่อของตุรกีรายงานอ้างคำกล่าวของนายกฯ ยิลดิริม ว่าทหารราบของตุรกีเข้าร่วมปฏิบัติการนี้โดยข้ามชายแดนเข้าสู่ดินแดนในความควบคุมของวายพีจีเมื่อเช้าวันอาทิตย์ แต่วายพีจีปฏิเสธรายงานข่าวนี้ โฆษกของวายพีจีกล่าวว่า พวกเขาสามารถขับไล่ทหารตุรกีล่าถอยไปหมดแล้ว และไม่มีทหารตุรกีอยู่บนผืนแผ่นดินอาฟรินอีก

ก่อนหน้านี้ กองทัพตุรกีอ้างว่าพวกเขาถล่มเป้าหมายที่เป็นของกองกำลังเคิร์ดได้ 153 แห่ง ส่วนพวกเคิร์ดได้ยิงจรวดหลายลูกโจมตีเมืองคิลิส เมืองติดชายแดนซีเรีย เมื่อคืนวันเสาร์

บิรุสก์ ฮาซากา โฆษกของวายพีจี กล่าวว่า การโจมตีเมื่อวันเสาร์สังหารพลเรือนอย่างน้อย 6 คนและนักรบอีก 3 คน มีพลเรือนบาดเจ็บด้วย 13 คน นักรบที่เสียชีวิตรายหนึ่งเป็นสมาชิกวายพีจี อีก 2 คนมาจากกองกำลังพันธมิตรที่เป็นหญิงล้วน

ด้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ของซีเรีย ประณามปฏิบัติการของตุรกีที่เมืองอาฟรินว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสเตือนว่า ปฏิบัติการของตุรกีอาจส่งผลกระทบต่อการต่อสู้ของนานาชาติในการกำจัดพวกนักรบญิฮาด

ที่มา: ไทยโพสต์