กองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกัน (ARSA) ออกแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์โจมตีแผนการส่งชาวโรฮิงญา ซึ่งลี้ภัยอยู่ในบังกลาเทศ กลับเมียนมาที่จะเริ่มขึ้นในวันอังคารหน้า ว่า เป็นแผนกับดัก หลอกลวง มีวัตถุประสงค์เพื่อจะขังชาวโรฮิงญาไว้ในค่ายระยะยาว แทนที่จะอนุญาตให้ชาวโรฮิงญาตั้งรกรากในหมู่บ้านหรือที่ดินของบรรพบุรุษ

โดยเจตนาของเมียนมาต้องการแจกจ่ายที่ดินของชาวโรฮิงญาไปใช้ในโครงการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ทั้งนี้ เมียนมาได้หารือกับบังกลาเทศตกลงที่จะส่งผู้ลี้ภัยราว 750,000 คน ซึ่งหนีความโหดร้ายป่าเถื่อนมายังบังกลาเทศตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว กลับเมียนมาในช่วง 2 ปีข้างหน้า

แต่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาหลายคนไม่ต้องการเดินทางกลับรัฐยะไข่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา เพราะไม่ต้องการเผชิญความโหดร้าย ทั้งการฆาตกรรม ข่มขืน และวางเพลิงบ้านเรือน

อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติและกลุ่มปกป้องสิทธิเห็นว่า การส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับเมียนมาต้องเป็นไปโดยความสมัครใจ พร้อมกับการรับรองความปลอดภัย เนื่องจากสภาพชุมชนต่างๆ ในรัฐยะไข่ยังมีความรู้สึกเกลียดชังชาวโรฮิงญาสูง ประกอบกับทหารและพระสงฆ์ได้รื้อถอนหมู่บ้านชาวโรฮิงญาหลายร้อยแห่ง

ท่ามกลางความกังวลว่าชาวโรฮิงญาจะกลับมารวมตัวในค่ายต่างๆ อีกครั้งในห้วงระยะยาว วันเดียวกัน นสพ.โกลว์บอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาได้ เผยแพร่ภาพหนึ่งในค่ายรับรองชาวโรฮิงญาที่เมืองหม่องดอ โดยทำจากไม้ล้อมรั้วเหล็กสูง ขณะที่ภาพสีหลายหน้าลงภาพผู้ก่อการร้ายกลุ่มอาร์ซาซึ่งเป็นที่ต้องการตัวกว่า 1,000 คน