คุณแม่แนน ได้เผยแพร่เรื่องราวของ น้องมีตังค์ ลูกชายวัยเดือนเศษ ที่ต้องติดเชื้อแบคทีเรียเพราะสัมผัสจากคนที่กินเหล้าและสูบบุหรี่ โดยคุณแม่แนนเล่าผ่านทีมงานว่า

ตอนแรกคุณแม่สังเกตเห็นว่าหูข้างซ้ายของน้องบวม คุณแม่ก็นึกว่าน้องโดนมดกัด แต่พอตื่นเช้ามาปรากฎว่าหูซ้ายของน้องบวมอีก คุณแม่ก็ยังไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าเดี๋ยวน้องก็คงหาย ด้วยความที่คุณแม่จะต้องไปทำงาน ซึ่งที่ทำงานกับบ้านนั้นไม่ไกลกันมากนัก แต่ทว่ากว่าคุณแม่จะเลิกทำงานก็สี่ทุ่มแล้ว แต่ตลอดเวลาที่ทำงานคุณแม่จะคอยโทรถามพี่เลี้ยงตลอดว่าน้องเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งพี่เลี้ยงก็บอกว่า “น้องโอเคดีขึ้น”

พอกลับมาถึงบ้านเท่านั้น คุณแม่สังเกตเห็นว่าหน้าของน้องมีผื่นแดงขึ้น พอคุณแม่เปิดเสื้อขึ้นมาเท่านั้นละ ถึงกับตกใจ เพราะทั้งตัวน้องมีแต่ผื่นแดงเต็มตัว คุณแม่ถามพี่เลี้ยง ๆ บอกว่า เมื่อสามทุ่มยังไม่มีผื่นแดงอะไรเลย

คุณแม่ไม่รอช้า รีบพาน้องส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที ตอนแรกคุณหมอบอกว่า น่าจะเป็นเพราะแพ้นมวัว แต่ผลเลือดที่ออกมาชี้ชัดเลยว่า น้องได้รับเชื้อแบคทีเรีย แต่คุณแม่จำไม่ได้จริง ๆ ว่า แบคทีเรียที่ว่านั้นเรียกว่าอะไร รู้แต่เพียงว่า สาเหตุที่ว่านี้เกิดจาก การติดเชื้อจากการสัมผัส ซึ่งอาจจะเป็นการสัมผัสจากคนที่กินเหล้าและสูบบุหรี่มาจูบ มากอด หรือมาหอมน้องนั่นเอง

คุณแม่เล่าต่ออีกว่า โชคดีที่เชื้อดังกล่าวยังไม่เข้ากระแสเลือด แต่น้องก็ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ไม่นานก็กลับบ้านได้ ก่อนกลับบ้านคุณหมอสั่งห้ามเด็ดขาดเลยว่า “จากนี้ไปห้ามให้คนกินเหล้า-สูบบุหรี่สัมผัสลูกเด็ดขาด ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นพ่อเด็กหรือญาติพี่น้องก็ตาม คราวนี้โชคดีที่คุณแม่คอยถ่ายภาพเก็บไว้และรีบมาหาหมอได้ทัน ถ้าช้ากว่านี้อาจจะได้รับอันตรายมากกว่าเดิม”

ทีมงานได้ถามอาการของน้อง ณ ปัจจุบัน คุณแม่บอกว่า “น้องหายดีแล้ว กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วละค่ะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากฝากถึงทุก ๆ ครอบครัวก็คือ เวลาเด็กเป็นน่าสงสารมาก ๆ นะคะ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สูบบุหรี่หรือกินเหล้าละก็ รักลูกหลาน เลี่ยงได้เลี่ยงสัมผัสพวกเขาเถอะค่ะ โดยเฉพาะอย่างที่สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน เพราะต่อให้คุณล้างมืออย่างไร ละอองบุหรี่ก็ยังติดอยู่ตามตัว เสื้อผ้าและเล็บอยู่ดี”

ควรอ่าน! ถ้าไม่อยากให้ ลูกติดเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส
หลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะได้ยินเรื่องราวจากคุณแม่ทางบ้านที่ต้องเผชิญกับปัญหาลูกป่วยจากการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น

โรคเริม อันเกิดจากการติดเชื้ิอไวรัสเริม ซึ่งเป็นไวรัสต่างชนิดกับงูสวัดและอีสุกอีใส โดยเชื้อไวรัสที่ว่านี้มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท อันได้แก่ ไวรัสเริมชนิดที่ 1 หรือเอชเอสวี 1 และไวรัสเริมชนิดที่ 2 หรือเอชเอสวี 2 ซึ่งสามารถติดต่อกับลูกหลานได้จากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่เป็นโรค ผ่านทางรอยถลอกของผิวหนังหรือทางเยื่อเมือกรวมถึง การใช้ของใช้ร่วมกัน การกิน การจูบ เป็นต้น

โรคปอดอักเสบ หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย จากการได้รับควันบุหรี่ โดยควันบุหรี่ที่ว่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกันดังนี้ค่ะ
     1.   ควันบุหรี่มือหนึ่ง คือ ควันบุหรี่ที่ผู้สูบดูดเข้าไปในร่างกาย
     2.   ควันบุหรี่มือสอง คือ ควันที่คละคลุ้งจากบุหรี่ที่เผาไหม้ และควันที่ผู้สูบพ่นหรือหายใจออกมา
     3.   ควันบุหรี่มือสาม คือ อนุภาคละอองไอสารเคมีที่เป็นพิษจากควันบุหรี่ที่ตกค้างเกาะติดอยู่ตามสิ่งต่างๆ ในสถานที่ที่มีการสูบบุหรี่ แม้บุหรี่จะดับไปแล้วก็ตาม ซึ่งรู้สึกได้จากกลิ่นที่ยังอบอวลอยู่ในห้อง หรือจากตัวผู้สูบเอง

โรคที่เอ่ยมาแล้วนั้น เป็นเพียงโรคตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อย ๆ เท่านั้นนะคะ ยังมีโรคอีกมากมายที่สามารถเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก ๆ ได้หากผู้ใหญ่อย่างเราไม่ระวังให้ดี ดังนั้น ก่อนที่จะสัมผัสกับเด็กเล็ก ๆ ควรจะต้องมั่นใจว่า มือของเราสะอาด และมีสุขภาพที่ดีพอ มิฉะนั้นตัวเราเองนี่ละค่ะ ที่จะเป็นพาหะนำโรคไปสู่ลูก ๆ หลานได้ โดยไม่รู้ตัว

ที่มา: amarinbabyandkids