รอยเตอร์ - กองทัพพม่า เผยว่า ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงดำเนินการสอบสวนว่าสมาชิกของกองกำลังรักษาความมั่นคงมีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารคน 10 คน ที่พบร่างในหลุมศพขนาดใหญ่ในรัฐยะไข่หรือไม่

การปราบปรามอย่างรุนแรงของกองกำลังรักษาความมั่นคงตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธในรัฐยะไข่ ได้ส่งผลให้มุสลิมโรฮิงญาราว 650,000 คน หลบหนีไปบังกลาเทศในช่วงหลายเดือนมานี้ และเมื่อสองวันก่อน ทหารได้ประกาศว่าค้นพบหลุมศพขนาดใหญ่ที่หมู่บ้านอินดิน ห่างจากเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐ ไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร 

ในคำแถลงที่โพสต์บนหน้าเพจเฟซบุ๊กของ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพ ระบุว่า ทีมสืบสวน 5 คน เดินทางออกจากกรุงเนปีดอในวันพุธ ภายใต้การนำของ พล.ท.เอ วิน ที่จะดำเนินการสืบสวนว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่กับศพที่พบในหลุมศพขนาดใหญ่ในหมู่บ้านอินดิน

พล.ท.เอ วิน เป็นเจ้าหน้าที่คนเดียวกับที่นำการสอบสวนอย่างกว้างขวางต่อการดำเนินการของกองกำลังทหารในความขัดแย้งที่เริ่มขึ้นในปลายเดือน ก.ย. โดยมีรายงานสรุปเมื่อเดือนก่อนว่าไม่มีการกระทำทารุณโหดร้ายเกิดขึ้น

กองกำลังทหารของพม่าดำเนินการในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นปฏิบัติการกวาดล้างในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ พื้นที่ที่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาจำนวนมากอาศัยอยู่ หลังกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาโจมตีด่านตำรวจ และค่ายทหารเมื่อวันที่ 25 ส.ค.

ผู้ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า กองกำลังทหารกระทำทารุณ ทั้งการสังหาร ข่มขืน และวางเพลิงในระหว่างปฏิบัติการ และสหรัฐฯ ระบุว่า การกระทำเหล่านั้นเทียบได้กับการกวาดล้างชาติพันธุ์.