ยูเอ็นชี้ “ซูจี” อาจถึงขั้นต้องคดี ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ “มุสลิมโรฮิงญา”
บีบีซีรายงานว่า นายซาอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวต่อสำนักข่าวบีบีซีว่าเขาแสดงความแน่วแน่จะนำตัวผู้กระทำผิดต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มุสลิมโรฮิงญาให้ได้ ซึ่งอาจรวมไปถึงนางอองซานซูจี ผู้นำเมียนมาโดยพฤตินัย และพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพเมียนมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการพบหลักฐานชี้ว่ากองทัพเมียนมามีส่วนในการเผ่าไล่ที่ชาวมุสลิมโรฮิงญา รวมไปถึงกักขัง ทำร้ายร่างกาย จนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งนายซาอิดระบุว่า การกระทำทั้งหมดนั้นถูกวางแผนอย่างเป็นระบบ
"เมื่อพิจารณาของปฏิบัติการทางทหารแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นคำสั่งของผู้นำระดับสูง" นายซาอิดกล่าว แต่ถึงอย่างไรก็ดียังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซี จะประทับรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ เนื่องจากเมียนมาไม่ได้เป็นสมาชิกศาลอาญาดังกล่าว
ด้านรอยเตอร์รายงานว่า คดีนี้อาจผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นให้ไอซีซีเป็นผู้ตัดสินคดีก็เป็นได้ แต่จีนที่เป็นพันธมิตรของพม่าสามารถยับยั้งการเสนอดังกล่าว
ขณะที่ด้านทหารพม่ายืนยันปฏิเสธมาโดยตลอดว่าปฏิบัติการของทหารเกิดขึ้นเพื่อปราบปรามความไม่สงบที่ก่อขึ้นโดยชาวมุสลิมโรฮิงญาซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทหารทำตามความชอบด้วยกฏหมาย นายซาอิดยังกล่าวด้วยว่า เขาวิตกว่ากลุ่มญิฮาดอาจก่อตัวขึ้นในค่ายผู้ลี้ภัย ซึ่งอาจเปิดฉากตอบโต้ไปที่ทางการเมียนมา
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนได้เผยผลสรุปจากการเก็บข้อมูลว่ามีชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 6,700 คนถูกสังหารในช่วงเดือนแรกของการกวาดล้างชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่
ที่มา: posttoday.com
Tags: