นายเซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวหาว่าเมียนมาวางแผนโจมตีรุนแรงต่อชาวมุสลิมโรฮีนจาระหว่างปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธในรัฐยะไข่

จนทำให้เกิดคลื่นผู้อพยพชาวโรฮีนจากว่า 655,000 คนไหลทะลักข้ามชายแดนสู่บังกลาเทศ

โดยระหว่างให้ สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวานนี้ นายเซอิดกล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนว่า การปฏิบัติการดังกล่าวถูกจัดการและวางแผนไว้แล้ว พร้อมเตือนว่า เป็นไปได้ที่การกระทำเช่นนี้อาจเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ก่อนหน้านี้องค์การแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า มีชาวโรฮีนจาถูกสังหารอย่างน้อย 6,700 คน ในช่วงเดือนแรกที่กองทัพเมียนมาใช้กำลังทหารเข้ากวาดล้างกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

แต่เมียนมาปฏิเสธการกระทำโหดร้าย พร้อมยืนยันว่าการปฏิบัติการมุ่งกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุโจมตีที่มั่นตำรวจเท่านั้น อย่างไรก็ตามนายเซอิดกล่าวว่า จากหลักฐานไม่ได้สนับสนุนเช่นนั้น