ไขข้อสงสัย โรคดึงผมตนเอง รักษาให้หายได้อย่างไร มาหาคำตอบ
เชื่อว่าหลายคน ต้องเคยเป็นกับพฤติกรรมที่ไม่มีอะไรทำ ก็มักจะเผลอตัวเอามือขึ้นลูบๆ หรือดึงผมตนเองเล่น จนทำให้ติดเป็นนิสัย และกลายเป็น โรคดึงผมตนเอง ที่อาจส่งผลให้ผมบาง ศีรษะล้านเป็นหย่อมๆ รวมถึงถึงเสียบุคลิกภาพได้ แล้วแบบนี้จะรักษาได้อย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันค่ะ
โรคดึงผมตนเอง หรือ hair-pulling disorder มีอีกชื่อหนึ่งคือ trichotillomania จัดเป็นโรคที่มีความผิดปกติทางจิตเวชในกลุ่มโรคย้ำคิดย้ำทำ โดยอาการหลักของผู้ป่วย คือ พฤติกรรมดึงผม หรือขนตามบริเวณต่างๆ เช่น คิ้ว ขนตาของตนเองเป็นประจำ โดยแบ่งกลุ่มผู้ป่วย เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รู้ตัวขณะดึงผม เนื่องจากการดึงผมทำให้ผ่อนคลาย หรือทำให้ความเครียด ความกังวลลดลง และกลุ่มที่ดึงผมโดยไม่รู้ตัว ขณะกำลังทำกิจกรรมอื่น
การดึงผมตนเองทำให้เกิดปัญหาต่อสภาพผมโดยตรง เช่น ผมหลุดร่วงเป็นหย่อมๆ อาจเกิดการขาดของเส้นผม ผมงอกใหม่แตกปลาย ไม่แข็งแรง บริเวณที่ผม หรือขนถูกดึง อาจพบอาการคันได้ แต่ไม่ควรมีอาการปวด และผลกระทบที่สำคัญ คือ ทำให้เสียบุคลิกภาพ และรบกวนการทำกิจวัตรประจำวันอื่น ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อย ไปพบแพทย์ผิวหนังก่อนมาพบจิตแพทย์ เนื่องจากโรคนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก และผู้ป่วยมักพบแพทย์เมื่อมีอาการมาเป็นระยะเวลานาน ส่วนใหญ่อาการของโรคเริ่มเกิดใน 2 ช่วงอายุ คือ วัยเด็ก และวัยรุ่น โดยอายุที่เริ่มเป็นโรคยิ่งน้อย ยิ่งสัมพันธ์กับการพยากรณ์โรคที่ดี
สำหรับสาเหตุของโรคนี้ยังสรุปไม่ได้แน่ชัด แต่จากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า โรคนี้สัมพันธ์กับความผิดปกติของการทำงานของสมองบางส่วน และสารสื่อประสาทไม่สมดุล นอกจากนี้ยังพบว่า โรคดึงผมมีความสัมพันธ์กับโรควิตกกังวล โรคเครียด โรคที่มีพฤติกรรมการกินผิดปกติ เช่น อะนอเร็กเซีย เนอร์โวซา (anorexia nervosa) , บูลิเมีย เนอร์โวซา (bulimia nervosa) เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคดึงผม อาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก ในรายที่มีอาการแยกยากจากโรคผิวหนังอื่น อาจต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมโดยแพทย์ผิวหนังก่อน การรักษาของโรคดึงผมให้ได้ผลดีที่สุด คือ การปรับพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็น biofeedback การผ่อนคลาย หรือ การทำจิตบำบัดรูปแบบต่างๆ ร่วมกับ การรักษาด้วยยาที่เพิ่ม serotonin เช่น ยากลุ่ม selective serotonin reuptake inhibitor (SSRI) อีกทั้งหากมีโรคร่วมอื่น เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า ก็ควรรักษาร่วมกัน เพื่อให้หายจากโรคดึงผม และไม่กลับมารบกวนชีวิตประจำวันอีก
ที่มา: www.si.mahidol.ac.th
Tags: