ดุอาอ์บทนี้ที่ฉันรักมาก
"จงเชื่อมั่น" มีดุอาอ์ขนาดยาวบทนึงที่รักมาก เป็นดุอาอ์จากท่านนบี ที่มีอยู่ในบันทึกของอิมามติรมิซีและอันนะซาอี ตัวบทเต็มของดุอาอ์ค่อนข้างยาว แต่คือดีงามทุกท่อนทุกความ แค่ 3 ประโยคแรกที่ขึ้นต้นก็คือน้ำตารื้น
اللَّهُمَّ اقْسِمْ لَنَا مِنْ خَشْيَتِكَ مَا تَحُولُ بِهِ بَيْنَنَا وَبَيْنَ مَعَاصِيكَ
وَمِنْ طَاعَتِكَ مَا تُبَلِّغُنَا بِهِ جَنَّتَكَ
وَمِنَ الْيَقِينِ مَا تُهَوِّنُ بِهِ عَلَيْنَا مَصَائِبَ الدُّنْيَا،
โอ้อัลลอฮ์ ขอพระองค์โปรดแบ่งปันให้กับเรา...ซึ่งความเกรงกลัวพระองค์ อันเป็นสิ่งที่จะป้องกันเราให้ห่างไกลจากการฝ่าฝืนพระองค์
ซึ่งการเชื่อฟังพระองค์ อันเป็นสิ่งที่จะทำให้เราบรรลุถึงสวนสวรรค์ของพระองค์ ซึ่งความเชื่อมั่นในพระองค์ อันเป็นสิ่งที่จะบรรเทาบททดสอบต่างๆ ในดุนยาที่เราได้พบ
มันเป็นดุอาอ์ที่ไม่เพียงขอผลลัพธ์ที่อยากได้ แต่ขอ “เครื่องมือสำคัญ” ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์นั้น
...ขอ “ความเกรงกลัวอัลลอฮ์” ที่เป็นเครื่องมือทำให้ไม่ฝ่าฝืนพระองค์
...ขอ “การเชื่อฟังอัลลอฮ์” ที่เป็นเครื่องมือนำไปสู่สวรรค์ของพระองค์
...ขอ “ความเชื่อมั่นในอัลลอฮ์” ที่จะทำให้ฝ่าฟันบททดสอบต่างๆ ไปได้
โดยเฉพาะชอบท่อนที่ 3 มากเลยนะ ถ้าเราขอการผ่านพ้นบททดสอบหนึ่งๆ เดี๋ยวเราก็จะต้องเจอบททดสอบอื่นๆ อีก แต่เมื่อเราขอ “ยะกีน-ความเชื่อมั่น” นั่นหมายถึง บททดสอบใดใดที่ผ่านเข้ามาทั้งวันนี้และวันข้างหน้า มันก็จะถูกผ่อนเบาน้ำหนักไป ถูกทำให้คลี่คลายลง
“ตุเฮาวิน” ในดุอาอ์บทนี้ที่แปลว่า ถูกทำให้บรรเทาและผ่อนเบาลง เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากคำว่า “วะ-ฮะ-น่ะ” ที่แปลว่า “อ่อนแอ” ในอัลกุรอานได้ใช้คำที่มาจากรากศัพท์นี้ไว้หลายตำแหน่ง เช่น ในดุอาอ์ของนบีซะกะรียา ที่บอกความอ่อนแอของตัวเองต่ออัลลอฮ์ก่อนจะขอลูกว่า “กระดูกกระเดี้ยวของข้าพระองค์นั้น ‘ไม่ค่อยจะมีแรง’ แล้ว” และในซูเราะฮ์อัลอังกะบูตที่อัลลอฮ์อธิบายถึงความอ่อนแอของบ้านแมงมุมว่า “แท้จริง บ้านที่ ‘อ่อนแอ’ ที่สุดนั้นคือบ้านของแมงมุม” นั่นก็คือ เมื่อเรามีความเชื่อมั่นสุดจิตสุดใจในอัลลอฮ์ บททดสอบหนักหนาที่เราได้พบเจอก็จะเบาบางเหมือนกระดูกของคนชรา และเหมือนเยื่อบางเบาของใยแมงมุม
“ยะกีน” หรือ “ความเชื่อมั่น” เป็นอะไรที่ต่อลมหายใจของบ่าวคนหนึ่งจริงๆ มันคือความเชื่อที่ทำให้เรามองเห็นเส้นทางบางทางที่ไม่มีใครอื่นมองเห็น เป็นความเชื่อมั่นแบบที่นบีมูซามี ในวันที่ยืนอยู่หน้าทะเลแดง ข้างหน้าคือผืนน้ำขนาดใหญ่ ข้างหลังคือกองทัพไล่ฆ่า และข้างๆ คือผู้คนที่เริ่มสิ้นหวัง แต่ท่านก็พูดอย่างไม่สนใจภาพตรงหน้าเลยว่า “พระเจ้าของฉันอยู่กับฉัน พระองค์จะนำทางฉัน” เป็นความเชื่อมั่นแบบที่ท่านหญิงฮาญัรมี ในวันที่สามีนำมาปล่อยกลางทะเลทรายอ้างว้าง รอบตัวคือผืนทรายร้อนแล้งไร้น้ำและอาหาร ในอ้อมอกคือลูกน้อยแบเบาะที่หิวโหย แต่เธอก็บอกกับสามีอย่างไม่ไยดีต่อสภาพตรงหน้าเลยว่า “ถ้านี่เป็นคำสั่งของอัลลอฮ์ พระองค์ย่อมไม่ทิ้งเรา”
นบีมูซาไม่รู้มาก่อนหรอกว่า ทางออกของท่านอยู่ใต้ผืนทะเลที่กำลังจะแหวกออกมา ท่านหญิงฮาญัรก็เช่นกัน ไม่รู้มาก่อนหรอกว่า ทางออกของเธออยู่ใต้ผืนทรายที่กำลังจะผุดตาน้ำขึ้นมา พวกเขาแค่เชื่อว่า ไม่ว่าจะมืดสักแค่ไหน ทางออกก็ต้องมี ไม่ว่าจะอับจนสักเท่าไหร่ ความช่วยเหลือก็ต้องมา ไม่มีอะไรต้องสงสัย...โดยสิ้นเชิง
ความเชื่อมั่นแบบนี้เองที่เราต้องเฝ้าวอนขอต่ออัลลอฮ์ ให้พระองค์แบ่งปันมันให้เรา ให้หัวใจของเรา ให้ชีวิตของเรา ความเชื่อมั่นที่ทำให้บททดสอบทั้งมวลเบาบางและผ่านไหว
บางบททดสอบในชีวิต...เรายังมองไม่เห็นหรอกว่าทางออกมันอยู่ตรงไหน แต่ “ยะกีน” จะทำให้เราเชื่อหมดใจว่า ยังไงมันก็มีอยู่และจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน ปัญหาสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ทางออกมันไม่มี แต่มันอยู่ที่เรายังเชื่อมั่นไม่มากพอ!
เครดิต: Sumaiyah Adha Vrt
Tags: